ข่าวประชาสัมพันธ์

  • สคช. ร่วมแสดงความยินดี 62 ปี สถาบันการประชาสัมพันธ์

    20.10.2566
    7,606 View

    สคช. ร่วมแสดงความยินดี 62 ปี สถาบันการประชาสัมพันธ์ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นตัวแทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมแสดงความยินดี เนื่องในโอกาสครบรอบ 62 ปี วันคล้ายวันก่อตั้งสถาบันการประชาสัมพันธ์ โดยมี นายคเชนทร์ กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมและพัฒนางานเทคนิค รักษาราชการแทนอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ให้การต้อนรับ ในโอกาสนี้ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้ร่วมบริจาคสมทบทุนเข้ากองทุน “กายอุปกรณ์เพื่อผู้พิการ” ในศิริราชมูลนิธิ เพื่อช่วยเหลือผู้พิการที่ยากไร้และด้อยโอกาส แทนการมอบกระเช้าและของขวัญแสดงความยินดีอีกด้วย สำหรับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มีมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ ที่สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาบุคลากร ในสาขาวิชาชีพธุรกิจโฆษณาและประชาสัมพันธ์ สาขาประชาสัมพันธ์ ประกอบไปด้วย อาชีพนักสื่อสารองค์กรสัมพันธ์ นักประชาสัมพันธ์ออนไลน์ นักสร้างสื่อประชาสัมพันธ์ นักวิจัยและประเมินผลการประชาสัมพันธ์ นักสื่อสารกลยุทธ์การประชาสัมพันธ์ และนักบริหารการประชาสัมพันธ์ ซึ่งไม่เพียงจะช่วยกันขับเคลื่อนให้นักประชาสัมพันธ์สามารถทำงานได้อย่างมีมาตรฐานเทียบเท่าสากล แต่ยังส่งเสริมให้มีการสื่อสารข้อมูลข่าวสารประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสอดรับกับการเติบโตของสื่อโซเชียล มีเดียอีกด้วย

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ดึง สมาคมอบจ.แห่งประเทศไทย ร่วมขับเคลื่อนไทยเป็น Medical Travel Hub สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมูลค่าสูง หนุนเป็นผู้นำ Soft Power โลก

    18.10.2566
    6,923 View

    สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ดึง สมาคมอบจ.แห่งประเทศไทย ร่วมขับเคลื่อนไทยเป็น Medical Travel Hub สร้างรายได้จากการท่องเที่ยวมูลค่าสูง หนุนเป็นผู้นำ Soft Power โลก นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานการลงนามความร่วมมือระหว่าง สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย โดยมีนางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบัน และนายบุญชู จันทร์สุวรรณ นายกสมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย เป็นผู้ลงนามความร่วมมือ เพื่อขยายผลความร่วมมือในการส่งเสริม พัฒนา และยกระดับการประกอบอาชีพของประชาชนไปสู่ท้องถิ่นต่างๆ ทั่วประเทศ ซึ่งพิธีลงนามความร่วมมือดังกล่าวจัดขึ้นภายในงาน “GHA x TPQI International Seminar : สานพลังสร้าง Medical Travel Hub สู่การท่องเที่ยวมูลค่าสูง” ซึ่งจัดโดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมกับ Global Healthcare Accreditation (GHA) และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล นายนคร ระบุถึงความร่วมมือกับสมาคม อบจ.แห่งประเทศไทย ว่าเป็นการร่วมกันยกระดับการประกอบอาชีพให้กับประชาชนในท้องถิ่น โดยขับเคลื่อนผ่าน อบจ.ทั้ง 76 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ซึ่งเป็นผู้มีจิตสาธารณะในการดูแลประชาชน ควรมีโอกาสได้รับการพัฒนายกระดับความรู้เชิงการแพทย์ในการให้บริการด้วย เพื่อเป็นการรองรับการพัฒนาจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ หรือ Medical Travel Hub ซึ่งเป็นอีกแนวทางที่จะช่วยส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในตัวขับเคลื่อนการเป็นผู้นำด้าน Soft Power ของโลกตามแนวนโยบายรัฐบาล ด้านนางสาวจุลลดา ระบุว่า การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ (Wellness and Medical Tourism) จะเป็นช่องทางสำคัญที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มีศักยภาพสูงได้ และท้องถิ่น ชุมชน เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยก้าวไปถึงจุดหมายนั้น โดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นส่วนสำคัญที่ดูแลประชาชนในพื้นที่ครบทุกมิติทั้งด้านความเป็นอยู่ การศึกษา และสุขภาพ ความร่วมมือครั้งนี้จึงจะต่อยอดพัฒนาประชาชนในทุกมิติได้เช่นกัน หลังจากนี้สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มีแผนขับเคลื่อนร่วมกับ อบจ. ทุกแห่งส่งเสริมให้เกิดการนำมาตรฐานอาชีพที่เกี่ยวข้อง ไปพัฒนาผู้ประกอบอาชีพในท้องถิ่น ให้สอดคล้องความต้องการตามบริบทของแต่ละพื้นที่ต่อไป เนื่องจากการให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพแก่คนในท้องถิ่น เป็นเสมือนการพัฒนาและยกระดับคุณภาพกำลังคนในการทำงาน ไม่เพียงเท่านั้นสังคมไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยอย่างเต็มรูปแบบ และผู้สูงอายุส่วนใหญ่กระจายตัวอยู่ในท้องถิ่นตามภูมิภาคต่างๆ การมีช่องทางในการพัฒนาหรือส่งเสริมการประกอบอาชีพใหม่ให้คนเหล่านี้ จะช่วยแก้ปัญหาภาระในครัวเรือน ลดภาระการใช้จ่ายงบประมาณ แต่สามารถเพิ่มศักยภาพในการประกอบอาชีพ สร้างรายได้ให้กับผู้สูงวัยเหล่านั้นด้วย นายบุญชู กล่าวย้ำในนามของผู้ดูแลสุขภาพประชาชนที่มีเจตนารมณ์ขับเคลื่อนให้รัฐบาลมีนโยบายกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น จนกระทั่งถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ให้อยู่ในความดูแลของ อบจ. โดยมีจังหวัดสุพรรณบุรี เป็นพื้นที่นำร่องนั้น เชื่อว่าความร่วมมือกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ จะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่มีความเป็นอยู่ มีสุขภาพชีวิตที่ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะกลุ่ม อสม. ที่ทำหน้าที่ดูแลผู้อื่น ก็ควรอยู่ในฐานะผู้ที่ได้รับการดูแลด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะส่งเสริมอาชีพ หรือพัฒนาให้เขาเหล่านั้นสามารถประกอบอาชีพได้อย่างมีมาตรฐาน จนนำไปสู่การยกระดับค่าตอบแทนให้สูงขึ้น เมื่อคุณภาพชีวิตของคนในพื้นที่ดีขึ้น ก็จะเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้การขับเคลื่อนตามแนวนโยบายรัฐบาลแข็งแรงในทุกด้านเช่นกัน ทั้งนี้ในงานยังได้มีการสัมมนาแนวทางการขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ ภายใต้แนวทางการมุ่งการท่องเที่ยวมูลค่าสูง ด้วยการขับเคลื่อนสถานประกอบการในธุรกิจสถานพยาบาล โรงแรม และธุรกิจบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง นำระบบคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ประโยชน์ในการฝึกอบรมและพัฒนากำลังแรงงานในสถานประกอบการ ซึ่งมีโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นต้นแบบในการนำมาตรฐานอาชีพไปใช้พัฒนาบุคลากรในสถานประกอบการ ทั้งนี้การจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ ในสาขาวิชาชีพการท่องเที่ยว การโรงแรม ภัตตาคารและร้านอาหาร สาขาการให้บริการการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ อาชีพนักบริหารการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ (Medical and Wellness Travel Facilitator) เป็นการประยุกต์นำมาตรฐานของ GHA ที่ถือได้ว่าเป็นมาตรฐานสากลเกี่ยวกับการบริการสุขภาพสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเพื่อการรักษาพยาบาล (Medical Travel) ที่ได้รับการยอมรับจาก World Medical Association ว่าเป็นมาตรฐานที่จำเพาะเจาะจงต่อผู้ป่วยที่เดินทางเพื่อการรักษาพยาบาล และไม่ได้มีเพียงการดูแลผู้ป่วยเท่านั้น แต่ยังมีเรื่องของการต้อนรับ การบริการผู้ป่วย รวมไปถึงช่วยพัฒนาธุรกิจการให้บริการผู้ป่วยอย่างยั่งยืน จึงเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ สามารถสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนมูลค่าสูงให้กับประเทศต่อไปได้

  • สคช. พร้อมหนุน ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ

    17.10.2566
    7,399 View

    สคช. พร้อมหนุน ไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มอบหนังสือรับรองหลักสูตรฝึกอบรมในสถานประกอบการหลักสูตร Wellness Coaching Program ของบริษัท พานาซี เมดิคอล เซ็นเตอร์ จำกัด โดยมอบให้กับคุณศิริญา เทพเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เวิลด์ เมดิคอล อัลไลแอนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมและประเมินหลักสูตรดังกล่าว มีช่องทางในการได้รับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพในอาชีพนักบริหารการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ (Medical and Wellness Travel Facilitator) ต่อไป โดยนางสาววรชนาธิป ระบุว่าการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ เป็นโอกาสในการสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนมูลค่าสูงจากการท่องเที่ยว ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวจะช่วยสร้างบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านสุขภาพพื้นฐานและวางแผนการท่องเที่ยวให้ตอบรับกับตลาดแรงงาน มีการให้บริการที่มีคุณภาพมาตรฐาน ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ ความมั่นใจ และดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ อันจะนำไปสู่การผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์และสุขภาพ โดยวันที่ 18 ตุลาคมนี้ สคช. ได้ร่วมกับ Global Healthcare Accreditation จัดการประชุม “GHA x TPQI International Seminar: สานพลังสร้าง Medical Travel Hub สู่การท่องเที่ยวมูลค่าสูง” ส่งเสริมให้ผู้ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและเชิงการแพทย์ให้มีสมรรถนะการทำงานที่เป็นมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

  • สคช. ร่วมแสดงความยินดี 22 ปี คมชัดลึก

    16.10.2566
    6,884 View

    สคช. ร่วมแสดงความยินดี 22 ปี คมชัดลึก นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นตัวแทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ร่วมแสดงความยินดีเนื่องในโอกาส ครบรอบ 22 ปี คมชัดลึก โดยมี นายปิยวิทย์ ดำรงสัตย์ กรรมการผู้จัดการคมชัดลึก ให้การต้อนรับ ณ อาคารอินเตอร์ลิงค์ ทาวเวอร์ บางนา กรุงเทพมหานคร นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า ถือเป็นโอกาสดีที่ สคช. ได้มาร่วมแสดงความยินดี เนื่องในโอกาสครบรอบปีที่ 22 คมชัดลึก และอวยพรให้เป็นสื่อมวลชน ที่นำเสนอข่าวสารที่มีคุณภาพ พร้อมส่งเสริมสังคมไทยเป็นสังคมแห่งความคิดสร้างสรรค์ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคดิจิทัลต่อไป

  • สคช. พร้อมยกระดับคุณภาพมัคคุเทศก์ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ

    05.10.2566
    8,320 View

    สคช. พร้อมยกระดับคุณภาพมัคคุเทศก์ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ นายวัสน์พล อรรถพรธนเสฐ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพแห่งประเทศไทย เข้าพบนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อสนับสนุนการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพให้กับมัคคุเทศก์ไทย โดยเฉพาะในกลุ่มสมาชิกสมาคมมัคคุเทศก์ เพื่อเพิ่มคุณภาพการให้บริการให้แก่นักท่องเที่ยว นายวัสน์พล ระบุว่า สิ่งที่น่ากังวลสำหรับอาชีพมัคคุเทศก์ในปัจจุบันคือ ความเป็นมืออาชีพที่มีคุณภาพ ทั้งความรู้ ความถูกต้อง และภาษา โดยเฉพาะมัคคุเทศก์รุ่นใหม่ที่หลายคนแม้จะมีการทดสอบได้บัตรมัคคุเทศก์ แต่ความรู้ที่ไม่เพียงพอส่งผลต่อการให้บริการ ให้ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวไม่ครบถ้วน รวมถึงมีปัญหาการสื่อสาร ซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้มัคคุเทศก์ไม่พัฒนาคือ Sitting Guide คือคนที่มีบัตรมัคคุเทศก์ แต่ไม่มีความสามารถด้านภาษา ทำให้ไม่สามารถทำงานได้ และรับจ้างนั่งประจำบนรถ โดยให้ต่างชาติทำหน้าที่มัคคุเทศก์สื่อสารแทน ทั้งที่ไม่มีใบอนุญาตซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก แต่หากมัคคุเทศก์ที่ผ่านการรับรองโดยหน่วยงานรัฐ ก็จะช่วยเสริมความเชื่อมั่นในบริการให้แก่นักท่องเที่ยวได้มากขึ้น นอกจากนี้อยากให้ สคช. จัดอบรมอาชีพเสริมให้กับมัคคุเทศก์ เพื่อรองรับทั้งมัคคุเทศก์ที่อาวุโส และช่วงการท่องเที่ยวซบเซาที่อาจทำให้คนในอาชีพต้องเปลี่ยนไปทำอาชีพอื่นแทน นางสาววรชนาธิป ย้ำว่า ที่ผ่านมา สคช. เปิดกว้างในการให้บริการให้กับผู้ประกอบอาชีพทุกคน ด้วยการจัดอบรมในอาชีพที่หลากหลาย ทั้งระบบออนไลน์ และออนไซต์ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายผู้ที่สนใจไม่ว่าจะเป็นมัคคุเทศก์หรือคนในอาชีพต่างๆ ก็สามารถเข้าใช้บริการอบรมพัฒนาความรู้ และทักษะสร้างอาชีพเสริมกับ สคช. ได้ผ่านระบบ E-Training ที่สำคัญ สคช. ให้การรับรองคนในอาชีพด้วยคุณวุฒิวิชาชีพในหลากหลายอาชีพ ซึ่งมัคคุเทศก์ก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่มีการจัดทำมาตรฐานอาชีพอยู่แล้วและพร้อมที่จะให้การสนับสนุนให้เกิดการประเมินและรับรองคนกลุ่มนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวของประเทศ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้ทางเศรษฐกิจในอันดับต้นๆ ของประเทศ และมัคคุเทศก์ก็มีส่วนสำคัญที่จะสร้างความประทับใจและภาพลักษณ์ที่ดีต่อนักท่องเที่ยวด้วย โดยเฉพาะช่วงเวลาที่เกิดสถานการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว มัคคุเทศก์ก็เป็นบุคคลสำคัญที่จะช่วยสื่อสารสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทย สคช. จึงพร้อมสนับสนุนให้เกิดการรับรองและยกระดับคุณภาพให้แก่มัคคุเทศก์ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ

  • สคช. – กรมการจัดหางาน แนะช่องทางเตรียมความพร้อมให้คนไทยที่เข้าโครงการ IM Japan จำนวน 100 คน ประกอบด้วยผู้เตรียมตัวเดินทางไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น / ผู้ที่อยู่ระหว่างการฝึก และ ผู้ที่สอบผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ

    02.10.2566
    7,888 View

    สคช. – กรมการจัดหางาน แนะช่องทางเตรียมความพร้อมให้คนไทยที่เข้าโครงการ IM Japan จำนวน 100 คน ประกอบด้วยผู้เตรียมตัวเดินทางไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น / ผู้ที่อยู่ระหว่างการฝึก และ ผู้ที่สอบผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโครงการ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) นำโดยนางสาวนฤมล พูลทรัพย์ ที่ปรึกษาสถาบัน ร่วมกับผู้แทนกรมการจัดหางาน และ IM Japan เข้าแนะนำช่องทางเตรียมความพร้อมให้คนไทยที่เตรียมตัวเดินทางไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่น ผู้ที่อยู่ระหว่างการฝึก และผู้ที่สอบผ่านการคัดเลือกจาก IM Japan ผ่านการใช้แพลตฟอร์ม EWE และ E-Portfolio โดยได้มีการเตรียมความพร้อมให้กับผู้เข้ารับการฝีกอบรมก่อนเดินทางไปฝึกงานเทคนิคในประเทศญี่ปุ่น ผ่านองค์กร IM Japan มีระยะเวลาฝึกปฏิบัติงานฯ เป็นระยะเวลา 3 ปี ในประเภทอุตสาหกรรมการผลิตและก่อสร้าง ซึ่งมีอยู่ราว 100 คน ที่อยู่ระหว่างการฝึกอบรม โดยจะมีอย่างน้อย 30 คน ที่เตรียมเดินทางไปฝึกงานที่ประเทศญี่ปุ่นในเดือนพฤศจิกายนนี้ โดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มีส่วนร่วมในการเตรียมความพร้อมก่อนฝึกงานโดยให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม สามารถใช้ช่องทางต่างๆ จากระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ในการเพิ่มทักษะในการประกอบอาชีพ ทั้งจากการฝึกอบรมผ่านหลักสูตรต่างๆ ในระบบ E-Training ผ่านแพลตฟอร์ม EWE ซึ่งมีกว่า 500 หลักสูตร โดยชุดฝึกอบรมเป็นสื่อการเรียนรู้ตามมาตรฐานอาชีพในการเข้าสู่ระบบคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นการ Up-skill และ Re-skill ในด้านทักษะที่จำเป็นสำหรับการทำงานในต่างประเทศ รวมถึงเชื่อมหลักสูตรการฝึกอบรมกับหน่วยงานภาคีเครือข่ายที่ช่วยในการพัฒนาตนเองให้กับสมาชิกผู้ใช้บริการได้ นอกจากนี้ยังได้แนะนำการเข้าใช้ E-Portfolio ในการเก็บประวัติสะสมผลงาน เป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการทำงานเมื่อเดินทางกลับประเทศไทย รวมถึงสามารถขอทดสอบประเมินในสมรรถนะต่างๆ ตามมาตรฐานอาชีพ เพื่อสะสมและขอรับคุณวุฒิวิชาชีพ อีกทั้งยังมีโอกาสในการนำไปเทียบเคียงกับคุณวุฒิทางการศึกษาได้เมื่อต้องการ โดยผู้เข้าอบรมได้ให้ความสนใจลงทะเบียนเข้าใช้บริการ โดยเฉพาะการฝึกอบรมฟรีในหลักสูตรต่างๆ ที่มีในแพลตฟอร์ม EWE

  • สคช.ร่วมการแถลงข่าวเปิดตัวสมาคมส่งเสริมพัฒนาอาชีพเสริมสวยและช่างตัดผมไทย (B.A.E.Thailand) และ OMC Thailand 2023 BEAUTY CULTURE FESTIVAL DOMIESTIC CHAMPIONSHIP

    28.09.2566
    8,343 View

    นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมการแถลงข่าวเปิดตัวสมาคมส่งเสริมพัฒนาอาชีพเสริมสวยและช่างตัดผมไทย (B.A.E.Thailand) และ OMC Thailand 2023 BEAUTY CULTURE FESTIVAL DOMIESTIC CHAMPIONSHIP ณ โรงแรม แกรนด์ ฟอร์จูน กรุงเทพ นางสาววรชนาธิป ระบุว่า องค์กร OMC เป็นองค์กรการแข่งขันด้านความงามที่ใหญ่ที่สุดและมีสมาชิกมากกว่า 1 ล้านคน จาก 5 ทวีปทั่วโลก มีองค์กรและสมาคมจากนานาประเทศกว่า 50 ประเทศ เข้าร่วมเป็นสมาชิก และได้มีการจัดแข่งขันชิงแชมป์หาผู้ชนะเพื่อส่งไปแข่งชิงแชมป์ระดับโลก ณ กรุงปารีส เป็นประจำทุกปี โดยประเทศไทยมีนางสาวสมเพชร ศรีชัยโย นายกสมาคมส่งเสริมพัฒนาอาชีพเสริมสวยและช่างตัดผมไทย และเป็นผู้บริหารโรงเรียนเสริมสวยและออกแบบทรงผมนานาชาติณรงค์ ในฐานะเป็นผู้แทนองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ในสาขาวิชาชีพธุรกิจเสริมสวย กับสถาบันคุณวุฒวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ได้รับแต่งตั้งให้เป็นประธาน OMC THAILAND ประจำประเทศไทย จึงจะเป็นอีกการขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาบุคลากรในธุรกิจเสริมสวยให้มีมาตรฐานอาชีพ ซึ่งประธาน OMC THAILAND ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่าเตรียมจัดการแข่งขัน OMC Thailand 2023 BEAUTY CULTURE FESTIVAL DOMIESTIC CHAMPIONSHIP เทศกาลงานแฟชั่นโชว์ศิลปะและความงามระดับโลก ในวันที่ 31 มกราคม 2567 ที่ไอคอนสยาม โดยจะมีการแข่งขันเฟ้นหาสุดยอดมืออาชีพในธุรกิจเสริมสวย อาทิ การตกแต่งทรงผมชาย ทำผมแฟนซี การแต่งหน้า แต่งเล็บ เพ้นท์คิ้ว ซึ่งไม่เพียงจะเป็นการผลักดันให้บุคลากในอาชีพนี้เป็นมืออาชีพระดับมาตรฐานที่สากลยอมรับ แต่ยังเป็นการยกระดับให้ศิลปะแขนงนี้เป็น Soft Power ของไทยที่สร้างมูลค่าต่อเศรษฐกิจสังคมของประเทศได้ด้วย เพราะอาชีพเสริมสวยเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่แม้แต่ AI ก็แทนที่ไม่ได้

  • สคช.ประชุม คณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ สมรรถนะ และสมรรนะสนับสนุนการทำงานนัดแรก เพื่อหารือแนวทางการพัฒนากำลังคน

    20.09.2566
    9,293 View

    สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. นำโดย นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานการประชุม คณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ สมรรถนะ และสมรรนะสนับสนุนการทำงานนัดแรก เพื่อหารือแนวทางการพัฒนากำลังคน โดยมีผู้แทนจากสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และกรมส่งเสริมการเรียนรู้ ทั้งนี้คณะทำงานดังกล่าว จะช่วยเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินภารกิจของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพดำเนินการให้ประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ หนังสือรับรองสมรรถนะ และหนังสือรับรองสมรรถนะสนับสนุนการทำงานของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนให้สถานศึกษา องค์กรที่ทำหน้าที่ฝึกอบรม องค์กรที่ทำหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ หรือสถานประกอบการ จัดทำหรือปรับปรุงหลักสูตรการเรียนรู้ หลักสูตรฝึกอบรม สอดคล้องตามมาตรฐานอาชีพ พร้อมผลักดันให้มีการนำมาตรฐานอาชีพ หรือสมรรถนะสนับสนุนการทำงานไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนากำลังคน เสนอแนะด้านการประกันคุณภาพ รวมถึงส่งเสริมให้มีการเข้าระบบ E-Portfolio บนแพลตฟอร์ม E-Workforce Ecosystem หรือ EWE เพื่อนำไปสู่การพัฒนากำลังคนและการเรียนรู้ตลอดชีวิต

  • สคช. ร่วมประชุมขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียนสู่การปฏิบัติ เพื่อรับรองมาตรฐานวิชาชีพ (Skill Certificate) สู่การเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างมีคุณภาพ

    19.09.2566
    9,447 View

    สคช. ร่วมประชุมขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียนสู่การปฏิบัติ เพื่อรับรองมาตรฐานวิชาชีพ (Skill Certificate) สู่การเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างมีคุณภาพ นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ลงพื้นที่วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี ร่วมประชุมทางวิชาการ เพื่อขับเคลื่อนกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ และกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียนสู่การปฏิบัติ เพื่อรับรองมาตรฐานวิชาชีพ (Skill Certificate) โดยมี พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานเปิดงาน และมีนายธวัชชัย ศรีทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี กล่าวต้อนรับ นางสาวจุลลา ได้ร่วมเวทีเสวนาในหัวข้อ “การพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน และมาตรฐานสากลของหน่วยผลิตและพัฒนากำลังคน” ร่วมกับ ผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) และกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยมี ดร.ศิริพรรณ ชุมนุม กรรมการกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ เป็นผู้ดำเนินรายการ นางสาวจุลลดา กล่าวว่า สคช. มีกลไกการพัฒนากำลังคนของประเทศ ด้วยการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งเทียบเคียงกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ (NQF) และกรอบคุณวุฒิอ้างอิงอาเซียน (AQRF) ที่สามารถสะท้อนความต้องการของสถานประกอบการได้ นอกจากเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่ขาดโอกาสทางการศึกษา ได้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาตามกรอบคุณวุฒิแห่งชาติ พร้อมนำไปสู่เส้นทางการพัฒนา สร้างโอกาส สร้างรายได้ และสร้างความก้าวหน้าในอาชีพได้แล้ว ที่ผ่านมา สคช. ยังได้มีการส่งเสริมให้ภาคการศึกษา นำมาตรฐานอาชีพมาถอดเป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ เพื่อจัดการเรียนการสอน ไม่ว่าจะเป็นหลักสูตรระยะสั้น หรือระยะยาว ก่อนจะผลักดันให้นักเรียน นักศึกษา ที่สำเร็จการศึกษาจากหลักสูตรที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพ ได้มีโอกาสรับคุณวุฒิวิชาชีพ นอกจากนี้ ในปี 2567-2569 สคช. จะมีการกำหนดมาตรฐานอาชีพนำร่อง ที่สามารถเทียบเคียงระดับอาเซียนได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อส่งเสริมการเคลื่อนย้ายแรงงานอย่างมีคุณภาพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับกำลังคนของประเทศในอนาคต ในการนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เยี่ยมชมบูธนิทรรศการของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ โดยนางสาวจุลลดา ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดทำมาตรฐานอาชีพ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ให้กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับภาคการศึกษา ในการพัฒนาหลักสูตรให้ยึดโยงกับมาตรฐานอาชีพ รวมถึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับการส่งเสริมการใช้แพลตฟอร์ม E-Workforce Ecosystem (EWE) ในการจัดเก็บข้อมูลด้านกำลังคน การสั่งสมสมรรถนะการเรียนรู้ Competency Credit Bank และการฝากประวัติส่วนตัวผ่านแฟ้มสะสมผลงานอิเล็กทรอนิกส์ E-Portfolio ซึ่งจะนำไปสู่การมีงานทำ และนำไปสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิตต่อไป

  • สคช. ยก อสม.สระบุรี เป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพ ครั้งแรกของประเทศ สร้างความเข้มแข็งให้ระบบสาธารณสุขท้องถิ่น รองรับสังคมผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ

    18.09.2566
    6,564 View

    สคช. ยก อสม.สระบุรี เป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพ ครั้งแรกของประเทศ สร้างความเข้มแข็งให้ระบบสาธารณสุขท้องถิ่น รองรับสังคมผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานในพิธีมอบใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ใน 12 ตำบลของจังหวัดสระบุรี ประกอบไปด้วยตำบลทับกวาง หนองแซง ตลิ่งชัน หนองสรวง ปากข้าวสาร วิหารแดง ดาวเรือง เสาไห้ หนองปลาไหล ไก่เส่า นาโฉง และตำบลหัวปลวก ที่ผ่านการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ สาขาบริการสุขภาพ อาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ ระดับ 1 จากโรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล องค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลาตามมาตรฐานอาชีพ จำนวน 300 คน โดยมี นายธนกฤต อัตถะสัมปุณณะ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี นายขุนทอง แสนวิเศษ รองนายกฯ นางทิตยาพร เพชรประดับ รองปลัดฯ นายเอกพร จุ้ยสำราญ ผู้เชี่ยวชาญและอดีตรองผู้ว่าราชการ จ.สระบุรี ดร.ณรงค์ศักดิ์ อุ้ย สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี และ ดร.พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ ผู้บริหารโรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล ให้การต้อนรับ นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า จากข้อมูลการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในประเทศไทย พบว่าตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป จะมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านคนต่อปี ซึ่งจะทำให้ผู้สูงอายุมีมากกว่า 12 ล้านคน ดังนั้น การพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุ ให้มีความรู้และทักษะในการปฏิบัติงาน ตั้งแต่ดูแลขั้นพื้นฐาน โภชนาการ ดูแลทำความสะอาดร่างกายผู้สูงอายุอย่างถูกวิธี จะช่วยทำให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจ พร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ ทั้งนี้ กลุ่ม อสม. จะถือเป็นบุคลากรด่านหน้าด้าน ที่มีส่วนช่วยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ได้มีแรงเสริมในการดูแลช่วยเหลือกลุ่มผู้สูงอายุ และกลุ่มผู้ป่วยติดเตียงที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับความสำเร็จในวันนี้ จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ อสม. ที่จะมีโอกาสได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคุณวุฒิที่เทียบได้กับคุณวุฒิทางการศึกษา สามารถใช้รับรองความรู้ ความสามารถ และทักษะ ในการเป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุได้อย่างมืออาชีพ นายธนกฤต กล่าวว่า อบจ.สระบุรี ให้ความสำคัญกับกลุ่ม อสม. ที่ถือเป็นผู้นำด้านสุขภาพ นักบริบาล และจิตอาสา ที่จะมาทำหน้าที่เป็นผู้ให้การช่วยเหลือเบื้องต้นด้านสาธารณสุข ให้กับประชาชนในชุมชน ขณะที่หลังจากนี้ จะมีการถ่ายโอนโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ใน 30 ตำบลให้ อบจ. สระบุรีกำกับดูแล การยกระดับให้คนกลุ่มนี้ไม่เพียงส่งเสริมให้ปฏิบัติงานได้ตรงตามมาตรฐาน นำไปสู่การต่อยอดในการเพิ่มรายได้แล้ว แต่ยังเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ที่ได้รับการดูแล นำไปสู่การสร้างสุขภาวะที่ดี ให้กับผู้สูงอายุในพื้นที่ได้รับการดูแลอย่างมีมาตรฐาน สำหรับจังหวัดสระบุรี นับเป็นพื้นที่ต้นแบบในการยกระดับความรู้ ความสามารถเพิ่มศักยภาพ และได้การรับรองประสบการณ์ ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ ให้กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ทั้งนี้ ได้เตรียมขยายผลไปยังอสม. ในจังหวัดอื่นๆ รวมถึงผู้ประกอบอาชีพอื่นๆ ให้มีโอกาสได้รับการรับรองด้วยคุณวุฒิวิชาชีพต่อไป

  • สคช. หนุนนโยบายรัฐบาล ดันสตรีทฟู้ดขึ้นแท่น soft power ประเดิมมอบป้ายมืออาชีพการันตีมาตรฐานผู้ประกอบอาหารถนนข้าวสาร

    15.09.2566
    7,086 View

    สคช. หนุนนโยบายรัฐบาล ดันสตรีทฟู้ดขึ้นแท่น soft power ประเดิมมอบป้ายมืออาชีพการันตีมาตรฐานผู้ประกอบอาหารถนนข้าวสาร นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมนายสมชาย อาภรณ์พงษ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ผู้อำนวยการสำนักเทศกิจ 1 กรุงเทพมหานคร นางสาวญาดา พรเพชรรัมภา ประธานชมรมผู้ค้าหาบเร่แผงลอยถนนข้าวสาร และ นางสาวกัญณัฐสินี ธีร์วุฒิพร Miss Tourism World Thailand 2021 ร่วมมอบป้ายมืออาชีพให้ผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถี หรือสตรีทฟู้ด ถนนข้าวสาร กรุงเทพมหานคร ที่ผ่านการประเมินตามมาตรฐานอาชีพจำนวน 42 คน จาก 34 ร้านค้า นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ได้ร่วมกับ กทม. และธนาคารออมสิน จัดการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพให้กับผู้ค้า ผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถีถนนข้าวสาร ซึ่งป้ายมืออาชีพจะเป็นเครื่องหมายการันตีถึงความสะอาด ปลอดภัย ตามมาตรฐานการปรุง ที่จะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภค โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยว ซึ่งถนนข้าวสารเป็นแลนด์มาร์กของกรุงเทพมหานคร ที่นักท่องเที่ยวอยากเดินทางมา การส่งเสริมให้ผู้ประกอบอาหารสตรีทฟู้ดปรุงอย่างมีมาตรฐาน มีช่องทางในการพัฒนาความรู้ และทักษะในการประกอบอาชีพต่อยอดการเรียนรู้ และแหล่งเงินทุน นำไปสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในครัวเรือน โดยเฉพาะเป็นการผลักดันให้อาหารไทยเป็น Soft Power ของไทยที่ดังไกลไปทั่วโลก อันจะเป็นการส่งเสริมและสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวของประเทศตามแนวนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ประธานชมรมผู้ค้าหาบเร่แผงลอยถนนข้าวสาร กล่าวว่า ถนนข้าวสาร แม้จะเป็นถนนเล็กๆ สายหนึ่ง แต่กลับเป็นที่รู้จักในกลุ่มนักท่องเที่ยวแบ็คแพ็กเกอร์ชาวต่างชาติ เต็มไปด้วยอาหารสตรีทฟู้ดที่ขึ้นชื่อมากมาย ความสะอาด ปลอดภัย ถือเป็นหัวใจสำคัญ ที่จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว ป้ายมืออาชีพจะเป็นการยกระดับผู้ประกอบการอาหารสตรีทฟู้ด ที่ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามระเบียบของ กทม. รวมถึงเป็นสัญลักษณ์ที่สร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวและผู้บริโภค ผู้ช่วยผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ผู้ที่ผ่านการประเมินเป็นมืออาชีพสตรีทฟู้ด สามารถนำประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพและหนังสือรับรองสมรรถนะ เป็นเอกสารประกอบการยื่นขอสินเชื่อกับธนาคารออมสิน ตามโครงการ สร้างงาน สร้างอาชีพ และสินเชื่อสตรีทฟู้ด กับธนาคารออมสินได้ โดยที่ผ่านมา ได้มีการอนุมัติสินเชื่อให้กับมืออาชีพ ไปแล้วกว่า 2,400 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่อยู่ในทุกอาชีพ มีโอกาสต่อยอดในการประกอบอาชีพ และสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้นได้

  • สคช. ผนึก กรมการจัดหางาน ร่วมยกระดับคุณวุฒิวิชาชีพให้กำลังแรงงาน เพื่อสร้างโอกาสการมีงานทำ

    12.09.2566
    8,599 View

    สคช. ผนึก กรมการจัดหางาน ร่วมยกระดับคุณวุฒิวิชาชีพให้กำลังแรงงาน เพื่อสร้างโอกาสการมีงานทำ 12 กันยายน 2566 นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่าง สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. กับกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน ว่าด้วยความร่วมมือด้านการใช้ประโยชน์ระบบคุณวุฒิวิชาชีพเพื่อการส่งเสริมการมีงานทำ โดยมีนางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และนายสันติ นันตสุวรรณ รองอธิบดีกรมการจัดหางาน เป็นผู้จรดปลายปากกา ท่ามกลางสักขีพยาน ประกอบไปด้วย นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการ นางสาวนฤมล พูลทรัพย์ ที่ปรึกษาสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นายวิชิต อินทรเจริญ ผู้ตรวจราชการกรม กรมการจัดหางาน และผู้บริหารจากทั้งสองหน่วยงาน นายนคร กล่าวว่า การลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่ทั้งสองหน่วยงานจะได้นำศักยภาพ มาร่วมกันผลักดันให้กำลังแรงงานของประเทศ สามารถการเข้าถึงโอกาสการใช้ประโยชน์จากคุณวุฒิวิชาชีพ ที่ให้การรับรองความรู้ ความสามารถ ของผู้ประกอบอาชีพ นำไปสู่การมีงานทำ รวมทั้งส่งเสริมให้กำลังแรงงานปรับตัวให้เข้ากับตลาดแรงงานในปัจจุบัน สามารถเข้าถึงแหล่งงาน ภายใต้หลักการจ้างงานอย่างมีจริยธรรม และรับค่าตอบแทนที่เป็นธรรมต่อไป นางสาวจุลลดา กล่าวว่า ที่ผ่านมาสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้มีการทำงานร่วมกันกับกรมการจัดหางานอย่างต่อเนื่อง และเป็นจิ๊กซอว์สำคัญในการเชื่อมโยงข้อมูลผ่าน E-Workforce Ecosystem (EWE) ทั้งระบบไทยมีงานทำ และระบบแนะแนวอาชีพ สำหรับบทบาทของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ภายใต้ความร่วมมือครั้งนี้ จะมีการส่งเสริมการใช้นวัตกรรม โดยนำระบบการเรียนรู้สมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพอิเล็กทรอนิกส์ (E–Training) ที่สามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา เพื่อพัฒนาความรู้ ความสามารถ และทักษะในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานอาชีพ พร้อมสนับสนุนข้อมูลทางวิชาการเพื่อจัดทำข้อมูล ด้านการแนะแนวและการส่งเสริมการประกอบอาชีพ สนับสนุนมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพธุรกิจบริการ อาชีพผู้สรรหาแรงงานข้ามชาติ รวมถึงผลักดันให้แรงงานไทย ที่กลับจากการทำงานในต่างประเทศ เข้าสู่ระบบคุณวุฒิวิชาชีพอีกด้วย รองอธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า กรมการจัดหางาน มีความยินดี ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลกับ สคช. ด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พร้อมสนับสนุนด้านวิชาการ เพื่อพัฒนามาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาธุรกิจบริการ อาชีพผู้สรรหาแรงงานข้ามชาติ เพื่อยกระดับสมรรถนะของผู้ประกอบอาชีพ รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการตระหนักถึงการจ้างงานอย่างมีจริยธรรมต่อไป

  • สคช. – depa ประกาศความร่วมมือประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ตอกย้ำความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

    11.09.2566
    6,970 View

    สคช. – depa ประกาศความร่วมมือประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ตอกย้ำความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วย นายณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล จรดปากกาลงนามบันทึกความเข้าใจความร่วมมือระหว่าง สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) กับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ในการส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล สำหรับบริการประชาชน โดยมีนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และนายภาสกร ประถมบุตร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ร่วมเป็นสักขีพยาน นางสาวจุลลดา กล่าวว่าที่ผ่านมา สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ได้มีการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพให้กำลังแรงงานไปแล้วกว่า 4 แสนคน พร้อมผลักดันให้คนทำงาน และนักศึกษา ได้มีการเก็บสะสมเป็นรายสมรรถนะตามมาตรฐานอาชีพ ก่อนรับการรับรองด้วยประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ โดยในปี 2567 สคช. จะมีช่องทางใหม่ในการเปิดหน่วยฝึกอบรมตามมาตรฐานอาชีพ พร้อม E-Coupon เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งความร่วมมือกับ depa จะสามารถให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งการพัฒนาแพลตฟอร์ม E-Workforce Ecosystem หรือ EWE ไม่ว่าจะเป็น ระบบ E-portfolio ที่สามารถเก็บประวัติ ข้อมูลวุฒิการศึกษา ผลงานประสบการณ์ทำงาน และการฝึกอบรม ระบบจับคู่งาน Job Matching ระบบแนะแนวอาชีพและค้นหาทักษะ Career Guidance and Skill Check ระบบสั่งสมสมรรถนะการเรียนรู้ Digital Competency Bank รวมไปถึงฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับระบบคุณวุฒิวิชาชีพทั้งหมด มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ สำหรับการเก็บรวบรวม ใช้ประมวลผล ด้วยระบบที่มีความมั่นคงปลอดภัย เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 สามารถช่วยสร้างความมั่นใจให้ประชาชน ว่าข้อมูลส่วนบุคคลจะมีการจัดเก็บอย่างปลอดภัยต่อไป นานณัฐพล กล่าวว่า depa ได้เล็งเห็นความสำคัญในการส่งเสริมและประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อการบริการประชาชน ที่ผ่านมาได้มีหารือร่วมกับ สคช. เกี่ยวกับ Certificate และการทำ Blockchain เพื่อให้บริการประชาชน ซึ่งหลังจากความร่วมมือครั้งนี้จะมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสมกับ สคช. เพื่อร่วมกันพัฒนากำลังคนต่อไป สำหรับความร่วมมือตาม MOU ของสองหน่วยงานครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญ เพื่อร่วมกันส่งเสริมการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลสำหรับบริการประชาชน หรือบริการสาธารณะบนพื้นฐานความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูล (Data Security) การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญเพื่อการพัฒนาบุคลากร ด้านการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ด้านความมั่นคงปลอดภัยข้อมูล (Data Security) และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) รวมถึงร่วมกันสร้างความตระหนักรู้ถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลให้กับประชาชน

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ขยายเครือข่าย จับมือ ม.อีสเทิร์นเอเชีย Log In แพลตฟอร์ม EWE เพื่อร่วมกันพัฒนากำลังคนของประเทศ

    11.09.2566
    7,900 View

    สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ขยายเครือข่าย จับมือ ม.อีสเทิร์นเอเชีย Log In แพลตฟอร์ม EWE เพื่อร่วมกันพัฒนากำลังคนของประเทศ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. จับมือ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย ลงนามบันทึกข้อตกลงความเข้าใจความร่วมมือ การส่งเสริมการพัฒนากำลังคนผ่านระบบคุณวุฒิวิชาชีพและระบบ E-Workforce Ecosystem โดยมีนางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วย ดร.โชติรัส ชวนิชย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย เป็นผู้จรดปากกาลงนาม มีนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และ ดร.สุชัย พงษ์พากเพียร รองอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากทั้ง 2 ฝ่ายร่วมเป็นสักขีพยาน นางสาวจุลลดา กล่าวว่า ภายใต้ความร่วมมือของทั้งสองหน่วยงาน จะเป็นอีกครั้งในการสร้างความเข้มแข็งให้กับกำลังคน ในการร่วมกันเชื่อมโยงคุณวุฒิวิชาชีพกับคุณวุฒิการศึกษา พร้อมวิเคราะห์หลักสูตรการศึกษาเพื่อพัฒนาให้เป็นหลักสูตรที่สอดคล้องตามมาตรฐานอาชีพ ที่นักศึกษาสามารถสั่งสมสมรรถนะการเรียนรู้ Competency Credit Bank ที่ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงาน ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้ได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมทั้งสนับสนุนให้มีการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ตลอดจนส่งเสริมการเข้าใช้งานระบบ E-Portfolio ซึ่งในอนาคตจะมีระบบ E-Coupon ที่จะช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม Up-skill Re-skill อีกด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ ถูกรวบรวมไว้บน E-Workforce Ecosystem เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต Life Long Learning ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ในวัยเกษียณ ก็จะมีความรู้ติดตัว เป็นผู้สูงวัยที่มีความตื่นตัว ทันโลกทันสมัยตลอดเวลา อธิการบดีมหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย กล่าวว่า แนวทางของ สคช. เป็นการพัฒนากำลังคนที่ตอบโจทย์เทรนด์ของปัจจุบัน โดยเฉพาะบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม และพาณิชยกรรม ที่ส่วนใหญ่แล้วเรียนจบ จะไม่ได้ศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น แต่จะมองหาการรับรองในวิชาชีพ ซึ่งจะเป็นการลดภาระค่าใช้จ่าย ขณะที่เป็นไปตามเทรนด์สากลที่มีการรับรองจากหน่วยงานภาครัฐ ความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยเพิ่มศักยภาพ ให้กับนักศึกษาของมหาวิทยาลัย พร้อมเข้าสู่โลกของการทำงานในอนาคตต่อไป

  • สคช. เยือนสิงคโปร์ ร่วมเวที ICDL Digital Literacy Day โชว์ศักยภาพการพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมดิจิทัล

    07.09.2566
    8,367 View

    สคช. เยือนสิงคโปร์ ร่วมเวที ICDL Digital Literacy Day โชว์ศักยภาพการพัฒนากำลังคนในอุตสาหกรรมดิจิทัล นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำคณะเจ้าหน้าที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมงาน 2023 ICDL Digital Literacy Day และ ICDL Digital Challenge 2023 Award Ceremony ณ SIM Global Education, Singapore Institute of Management (SIM) ประเทศสิงคโปร์ พร้อมเป็นบรรยายพิเศษ เกี่ยวกับการขับเคลื่อนกำลังคนด้านอุตสาหกรรมดิจิทัล หัวข้อ Accelerating Digital Skill in Thailand -Good Practices and Challenges และระบบแพลตฟอร์มอัจฉริยะเพื่อการบริหารจัดการข้อมูลด้านกำลังคน และการพัฒนาสมรรถนะด้วยการเรียนรู้ตลอดชีวิตของประเทศไทย E- Workforce Ecosystem Platform จากนั้นได้เข้าศึกษาดูงานที่ SIM University Tour นำโดย SIM student Ambassadors และเข้าฟังบรรยาย"Digital Changes and Effects of Singapore Global Education" โดย Dr.Timothy Chan, Provorst of SIM Singapore Institute of Management, Global Education ทั้งนี้ จากการศึกษาดูงานดังกล่าว ได้เตรียมนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ ต่อการพัฒนาการทำงานของ สคช. ต่อไป

  • นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้เข้าพบนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ ททท. คนใหม่

    07.09.2566
    9,752 View

    นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้เข้าพบนางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการ ททท. คนใหม่ ณ สำนักงานใหญ่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ถนนเพชรบุรี ซึ่งได้มีการพูดคุยแนวทางการดำเนินงานร่วมกัน หลัง ททท. ได้รับแนวทางจากรัฐบาลในการเร่งพัฒนาการท่องเที่ยว และหวังว่าจะได้รับความร่วมมือเป็นพันธมิตรที่ดีจากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพด้วย ซึ่งนางสาววรชนาธิป ได้แสดงความพร้อมให้ความร่วมมือกับ ททท. ในการผลักดันและสนับสนุนการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาลซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนเศรษฐกิจไทยได้เติบโตในอนาคตต่อไป