ข่าวประชาสัมพันธ์

  • “อนุทิน” มอบ 6 นโยบาย ขับเคลื่อนการดำเนินงานสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ย้ำคุณวุฒิวิชาชีพต้องเป็นปริญญาอาชีพของประเทศไทย

    23.11.2566
    8,656 View

    “อนุทิน” มอบ 6 นโยบาย ขับเคลื่อนการดำเนินงานสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ย้ำคุณวุฒิวิชาชีพต้องเป็นปริญญาอาชีพของประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้าตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายการดำเนินงานให้กับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ในฐานะเป็นหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้กำกับดูแล โดยมีนายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบัน พร้อมผู้บริหารและบุคลากรของสถาบันให้การต้อนรับ นายอนุทิน กล่าวว่า สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพเป็นหน่วยงานที่มีความสำคัญในการรับรองความรู้ ความสามารถ ให้กับคนทำงานในทุกมิติตั้งแต่คนหาเช้ากินค่ำ ไปจนถึงระดับ High skill และ Future skill ซึ่งหากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพสามารถดำเนินการได้ครอบคลุมทั้งในเชิงพื้นที่และตามนโยบายรัฐบาลจะช่วย “ลดภาระของประชาชนคนทำงาน” ลดเวลาการหางาน และลดค่าใช้จ่ายในห้องเรียน ตนในฐานะกำกับดูแลสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ให้ความสำคัญกับกระแสโลกที่เปลี่ยนไปในยุคสมัยที่ Skill นำ Degree จึงต้องขับเคลื่อนงานให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมในการสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างรายได้ให้ประชาชน นายอนุทิน กล่าวมอบนโยบาย เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ประกอบไปด้วย ส่งเสริมให้แรงใหม่เข้าสู่ตลาดแรงงานให้เร็วขึ้น เมื่อเข้าสู่สถานประกอบการ โดยได้รับการฝึกแล้ว ต้องได้รับการรับรองสมรรถนะ สามารถได้ค่าตอบแทนที่เหมาะสม ขณะที่แรงงานเดิมต้องได้รับการพัฒนา ยกระดับสมรรถนะ ผ่านการส่งเสริมให้เครือข่ายของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ทำการฝึก และประเมินคนทำงานทั้งในและนอกระบบด้วยมาตรฐานอาชีพ พร้อมเชื่อมโยงกับภาคการศึกษา ในการนำมาตรฐานอาชีพไปกำหนดเป็นหลักสูตร ฐานสมรรถนะ โดยความร่วมมือกับกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อสร้างคนให้ตรงกับงาน ที่สำคัญคือให้คุณวุฒิวิชาชีพ ต้องเป็น “Degree” ด้านอาชีพ หรือเป็นปริญญาด้านอาชีพ ควรให้การรับรองความสามารถ และทักษะ โดยเฉพาะผู้ที่ขาดโอกาสทางการศึกษา ไม่ได้รับปริญญา หรือประกาศนียบัตรต่าง ๆ แต่มีความสามารถ ความเชี่ยวชาญ ทำให้เกิดคุณค่า สร้างนวัตกรรม รวมถึงเพิ่มโอกาสในการนำใบรับรองนี้ไปใช้สมัครงานใช้ประกอบอาชีพที่สุจริต แทนการใช้ใบปริญญา ขณะเดียวกันต้องร่วมผลักดันและขับเคลื่อนแพลตฟอร์ม E-Workforce Ecosystem : EWE ให้เป็น Big Data “ด้านกำลังคน” ของประเทศไทย ให้คนหางาน เจองาน ให้นายจ้าง เจอคนหางาน ตลอดจน “เข้าถึง” ช่องทางสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิตสำหรับคนทำงาน และได้รับการสนับสนุนในการพัฒนาทักษะ “อย่างเป็นระบบ” สามารถเก็บสั่งสมประสบการณ์และการเรียนรู้ผ่าน Competency Credit Bank System เชื่อมกลับไปสู่โลกของการศึกษาได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในกลุ่มอาชีพอิสระ ที่มีจำนวนกว่า 20 ล้านคน และสุดท้ายคือการยกระดับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพสู่เวทีสากล ทำให้ระบบคุณวุฒิวิชาชีพของไทยมีจุดยืนในเวทีสากล พร้อมสร้างการยอมรับมาตรฐานอาชีพของต่างประเทศ เตรียมความพร้อมให้คนที่ต้องการไปทำงานต่างประเทศ หรือคนไทยที่เคยไปทำงานที่ต่างประเทศแล้วต้องการกลับมาที่ประเทศไทย โดยให้บูรณาการการทำงานร่วมกับ 4 กระทรวงหลักอย่างกระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) เพื่อส่งเสริมการพัฒนาทุนมนุษย์ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าที่สุดของประเทศไทย โอกาสนี้นางสาวจุลลดา ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ยังได้กล่าวแนะนำถึงโครงสร้าง วัตถุประสงค์และบทบาทของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ให้แก่รองนายกรัฐมนตรี และคณะ พร้อมนำเสนอผลการดำเนินงานของสถาบันที่ผ่านมา อาทิ การจัดทำมาตรฐานอาชีพ การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ การนำมาตรฐานอาชีพไปพัฒนาบุคลากรในสถานประกอบการ การสนับสนุนการเรียนรู้ด้วยมาตรฐานอาชีพ การจัดทำฐานข้อมูลระบบคุณวุฒิวิชาชีพและข้อมูลกำลังแรงงาน เป็นต้น

  • สคช. ชู อสม.สระบุรี เป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพต้นแบบ ตอกย้ำความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขท้องถิ่น สู่การเป็นสังคมสูงวัยคุณภาพ

    22.11.2566
    8,064 View

    สคช. ชู อสม.สระบุรี เป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุมืออาชีพต้นแบบ ตอกย้ำความเข้มแข็งของระบบสาธารณสุขท้องถิ่น สู่การเป็นสังคมสูงวัยคุณภาพ นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ลงพื้นที่จังหวัดสระบุรี เป็นประธานในพิธีมอบใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน หรือ อสม. ประจำเทศบาลเมืองสระบุรี และเทศบาลตำบลหน้าพระลาน รวมกว่า 280 คน ที่ผ่านการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ สาขาบริการสุขภาพ อาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ ระดับ 1 จากโรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล องค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลาตามมาตรฐานอาชีพ โดยมี นายธีรรัตน์ จึงยิ่งเรืองรุ่ง นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี นางสมฤดี จันทร์สุวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลหน้าพระลาน พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากเทศบาลเมือง และเทศบาลตำบลหน้าพระลาน และดร.พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ ผู้บริหารโรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล ให้การต้อนรับ นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า การก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัย มีจำนวนทารกเกิดใหม่น้อยลง สวนทางกับจำนวนผู้สูงอายุที่เข้ามาแทนที่ จากข้อมูลมีการคาดการณ์ว่านับตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นไป จะมีจำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นกว่า 1 ล้านคนต่อปี ซึ่งคาดว่าในอีกไม่เกิน 15 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะกลายเป็น “สังคมสูงอายุระดับสุดยอด” (super aged society) เมื่อสัดส่วนของประชากรที่มีอายุมากกว่า 60 ปีสูงถึง 28% ของประชากรทั้งหมดทั่วประเทศ ดังนั้น การพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการผู้สูงอายุ ให้มีความรู้ จะช่วยทำให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจ พร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุที่มีคุณภาพ ทั้งนี้กลุ่ม อสม. ที่ได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ จะมีส่วนช่วยให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในการดูแลช่วยเหลือกลุ่มผู้สูงอายุที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับความสำเร็จในวันนี้ จะเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของ อสม. ที่จะมีโอกาสได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งคุณวุฒิที่เทียบได้กับคุณวุฒิทางการศึกษา สามารถใช้รับรองความรู้ ความสามารถ และทักษะ ในการเป็นผู้ดูแลผู้สูงอายุได้อย่างมืออาชีพ นางสมฤดี กล่าวว่า เทศบาลตำบลหน้าพระลาน มีกลุ่ม อสม. ที่เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ โดยเฉพาะการดูแลผู้สูงอายุอยู่จำนวนมาก ซึ่งหลายคนระดับการศึกษาอาจไม่สูงนัก การที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพเข้ามาให้การรับรองประสบการณ์การทำงานให้เหล่า อสม. จึงจะช่วยยกระดับศักยภาพให้กับกลุ่ม อสม. และจะเป็นใบเบิกทางในการสร้างความน่าเชื่อถือ สร้างการยอมรับในการทำหน้าที่ได้อย่างมืออาชีพ นอกจากจะทำให้สุขภาพ และคุณภาพชีวิตประชาชน ผู้สูงอายุในพื้นที่ได้รับการดูแลอย่างทั่วถึงแล้ว ยังเป็นการยกระดับศักยภาพผู้นำด้านสุขภาพ นักบริบาล และจิตอาสา ให้ได้รับการรับรองด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพอีกด้วย เช่นเดียวกับนายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี ที่ยอมรับว่า กลุ่ม อสม. ที่ได้รับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ไม่เพียงจะเป็นการปฏิบัติต่อผู้สูงอายุได้ถูกต้องตามหลักการ ช่วยลดการบาดเจ็บระหว่างการดูแลได้ และยังเป็นความรู้ติดตัว ที่สามารถถ่ายทอดส่งต่อลูกหลานในชุมชน ให้มีการดูแลผู้สูงอายุในครอบครัวได้อย่างถูกต้อง ส่งผลให้สังคมผู้สูงอายุในพื้นที่จะได้รับการดูแลทั้งกายและใจ เป็นสังคมสูงวัยที่มีคุณภาพ สำหรับจังหวัดสระบุรี นับเป็นพื้นที่ต้นแบบในการยกระดับความรู้ ความสามารถเพิ่มศักยภาพ และได้การรับรองประสบการณ์ ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ ให้กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ทั้งนี้ ได้เตรียมขยายผลไปยังอสม. ในจังหวัดอื่นๆ รวมถึงผู้ประกอบอาชีพอื่นๆ ให้มีโอกาสได้รับการรับรองด้วยคุณวุฒิวิชาชีพต่อไป

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เสนอตัวพร้อมให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย หนุนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหาร

    21.11.2566
    7,280 View

    สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เสนอตัวพร้อมให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ 1 หมู่บ้าน 1 เชฟอาหารไทย หนุนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหาร นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ในฐานะรองประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร (คณะกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ) เข้าร่วมประชุมนัดแรก โดยมีเชฟชุมพร แจ้งไพร เป็นประธานอนุฯ พร้อมหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เพื่อร่วมขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ด้านอาหาร โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบให้นำเสนอ 3 โครงการ Quick Win เสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ประกอบด้วยโครงการหนึ่งหมู่บ้าน หนึ่งเชฟอาหารไทย ซึ่งจะเป็นการขับเคลื่อนนโยบายเพื่ออาหารไทย ด้วยการจัดทำหลักสูตร คู่มือการเรียนการสอน สร้างเทรนเดอะเทรนเนอร์ ส่งเสริมในเรื่อง เรียนทำอาหาร งานดี มีเงินเดือน จับคู่โรงเรียนสอนทำอาหารกับร้านอาหาร เพื่อให้นักเรียนได้ฝึกงานช่วงเรียนแบบได้รับค่าแรง และเมื่อเรียนจบจะสามารถทำงานกับร้านอาหารได้ทันที โดยมีสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นผู้ให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพแก่ผู้ที่ผ่านการเรียนการสอนการอบรมตามหลักสูตรดังกล่าว โดยคัดเลือกสุดยอดเชฟจากกองทุนหมู่บ้าน 75,086 หมู่บ้าน สร้างเชฟ 75,086 คน ตั้งเป้าปีที่ 1 มีผู้ที่ผ่านการเรียนรู้ 10,000 คน โดยอย่างน้อย 8,500 คน ต้องได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ และมีงานทำไม่ต่ำกว่า 5,000 คน นอกจากนี้ที่ประชุมยังเห็นควรเสนอโครงการ Thai Food Channel ด้วยการทำคอนเทนต์สร้างเรื่องราวเกี่ยวกับอาหารไทยเพื่อเผยแพร่ในทุกแพลตฟอร์มผ่าน influencer ตั้งเป้ายอดการเข้าชมตลอดโครงการ 500 ล้านวิว รวมถึงเห็นควรเสนอโครงการ ร้านอาหารเชฟชุมชนอาหารถิ่นอาหารไทย Local Chef Restaurant ด้วยแนวคิดการแลกเปลี่ยนวัตถุดิบท้องถิ่นสร้างการเรียนรู้ร่วมกัน ต่อยอดวัตถุดิบท้องถิ่นมาทำเป็นอาหาร สร้างตัวตนให้อาหารท้องถิ่นให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น สร้างร้านค้าชุมชน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน สร้างรายได้ตามมา ขณะเดียวกันยังมีอีก 6 โครงการซึ่งเป็นแผนระยะยาวที่จะดำเนินการต่อไปทั้งการจัด World Tour อาหารไทยไป 7 ทวีป 43 ประเทศทั่วโลก จัดตั้งกองทุน Soft Power จัดโครงการศูนย์รวมอาหาร Thai Food World Congress การยกระดับอาหาร สร้างภาพยนตร์ที่ถ่ายทอดวัฒนธรรมอาหารไทย รวมถึงการสร้างนวัตกรรมอาหารและเครื่องดื่มออกสู่ตลาดสากลด้วย

  • สคช. เปิดตัว Pet Groomer รพ.สัตว์ทองหล่อ ขึ้นแท่นสถานประกอบการแห่งแรก ที่มีมาตรฐานอาชีพอาบน้ำ-ตัดขนสัตว์ รับรองโดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ

    20.11.2566
    6,929 View

    สคช. เปิดตัว Pet Groomer รพ.สัตว์ทองหล่อ ขึ้นแท่นสถานประกอบการแห่งแรก ที่มีมาตรฐานอาชีพอาบน้ำ-ตัดขนสัตว์ รับรองโดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ร่วมกับบริษัท โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ จำกัด และกรุงเทพมหานคร สานพลังเปิดตัวมาตรฐานอาชีพสำหรับสถานประกอบการ "อาชีพอินเทรนด์ Pet Groomer ดูแลน้องสัตว์เลี้ยงแสนรัก อย่างมืออาชีพ" หลังโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ขึ้นแท่นสถานประกอบการแห่งแรกของประเทศ ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอาชีพสำหรับสถานประกอบการ สาขาวิชาชีพธุรกิจบริการ อาชีพพนักงานอาบน้ำและตัดขนสัตว์เลี้ยง ระดับ 4 จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ โดยมีนางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วย นายบุญชู ทองเจริญพูลพร ที่ปรึกษาผู้บริหาร โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ และคณะผู้บริหารของทั้ง 3 หน่วยงาน เข้าร่วมในงาน นางสาวจุลลดา กล่าวว่า ประเทศไทยมีแนวโน้มการเลี้ยงสัตว์เพิ่มมากขึ้น ขณะที่สัตว์เลี้ยงถูกปรับเปลี่ยนสถานะจากเลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน กลายมาเป็นสมาชิกในครอบครัว ช่วยสร้างคุณค่าทางจิตใจ ทำให้ผู้เลี้ยงมีการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสัตว์เลี้ยงเติบโตมากขึ้นด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอาหาร ความเป็นอยู่ และดูแลเรื่องสุขภาพ ดังนั้นบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเหล่านี้ จึงจำเป็นต้องมีมาตรฐาน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยง ว่าจะได้รับการบริการอย่างมีคุณภาพ โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ถือเป็นหนึ่งในสถานประกอบการ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรในองค์กร ให้ได้รับการยอมรับว่ามีประสิทธิภาพ จนเป็นสถานประกอบการแห่งแรก ที่ได้รับการรับรองมาตรฐานอาชีพ สาขาวิชาชีพธุรกิจบริการ อาชีพพนักงานอาบน้ำและตัดขนสัตว์เลี้ยง ในระดับ 4 การจัดงานในครั้งนี้ เกิดจากการสานพลังของ 3 หน่วยงานหลัก ที่ร่วมกันขับเคลื่อนให้มาตรฐานอาชีพพนักงานอาบน้ำและตัดขนสัตว์เลี้ยงได้เกิดขึ้นอย่างสำเร็จและสมบูรณ์ โดยโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ สร้างมาตรฐานอาชีพ Pet Groomer จากสมรรถนะที่ผู้ประกอบการต้องการ กรุงเทพมหานคร ฝึกอาชีพสำหรับผู้ว่างงานและผู้ต้องการประกอบอาชีพอิสระ นำมาสู่การรับรองคุณวุฒวิชาชีพ Pet Groomer มืออาชีพ ทำงานได้ ทำงานจริง มีสมรรถนะตามมาตรฐานอาชีพ สำหรับอาชีพพนักงานอาบน้ำและตัดขนสัตว์เลี้ยง ระดับ 4 โดยเป็นมาตรฐานอาชีพสำหรับผู้ที่มีสมรรถนะในการทำงานอาบน้ำและตัดขนสัตว์เลี้ยงเฉพาะทางตามหลักการหรือทฤษฎีในการดูแลสัตว์เลี้ยง สามารถตัดสินใจและแก้ปัญหาภายใต้สภาพแวดล้อมการทำงานได้ด้วยตนเองเพื่อควบคุมคุณภาพงานหรือผลงานได้ โดยมีสมรรถนะคือ รับความต้องการของลูกค้า ให้บริการอาบน้ำ สัตว์เลี้ยง ให้บริการเสริมในการดูแลสัตว์เลี้ยงตามความต้องการของลูกค้า ตัดขนสัตว์เลี้ยงด้วยกรรไกร ตรวจสอบเก็บรายละเอียดหลังการให้บริการ ส่งมอบสัตว์เลี้ยงคืนลูกค้า ตามคู่มือระเบียบการปฏิบัติงานการให้บริการ ตามมาตรฐานการทำงานของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ซึ่งจะนำไปสู่การผลักดันให้พนักงาน บุคลากรในเครือข่ายของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ได้การรับรองสมรรถนะการทำงานด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นสร้างความภาคภูมิใจ สร้างความมั่นคงให้ผู้ปฏิบัติงาน และสร้างความมั่นใจในการใช้บริการให้กับลูกค้าได้ว่า สัตว์เลี้ยงของท่านจะได้รับบริการจากพนักงานคุณภาพ และมีมาตรฐานรับรองความเป็นมืออาชีพ

  • สคช. เยือนราชบุรี เปิดโลกคุณวุฒิวิชาชีพ ฝึกทักษะทำมาหากิน มุ่งมั่นเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งท้องถิ่น

    18.11.2566
    7,545 View

    สคช. เยือนราชบุรี เปิดโลกคุณวุฒิวิชาชีพ ฝึกทักษะทำมาหากิน มุ่งมั่นเดินหน้าสร้างความเข้มแข็งท้องถิ่น 17 พฤศจิกายน 2566 ณ โรงยิมเนเซียม (สนามฟุตซอล) จังหวัดราชบุรี สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. นำโดย นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ยกทัพลุยจังหวัดราชบุรี จัดกิจกรรม “เปิดโลกคุณวุฒิวิชาชีพ ฝึกทักษะทำมาหากิน” เพื่อสร้างต้นแบบการฝึกอบรมอาชีพร่วมกับหน่วยงานองค์กรปกครองท้องถิ่น ตอบโจทย์การพัฒนาทักษะการประกอบอาชีพที่เหมาะสม พร้อมส่งเสริมต่อยอดพื้นที่ "เมืองแห่งมืออาชีพ" โดยมี คณะผู้บริหารและสมาชิกสภาเทศบาลเมืองราชบุรี และนางสาวกุลวลี นพอมรบดี ส.ส.ราชบุรี ให้การต้อนรับ นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้ เป็นอีกครั้ง ที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่น จัดการฝึกอบรม สร้างอาชีพที่หลากหลายกระจายไปสู่ชุมชน โดยจังหวัดราชบุรี ถือเป็นจังหวัดนำร่อง ในการพัฒนาองค์ความรู้ โดยการใช้วัตถุดิบ หรือเครื่องไม้เครื่องมือที่มีอยู่ในชุมชนให้เกิดประโยชน์ พร้อมนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาผสมผสานกับทรัพยากร ภูมิปัญญา และวัฒนธรรมพื้นถิ่น เพื่อสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้ครอบครัว ซึ่งสอดรับกับนโยบายของรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับการกระจายรายได้สู่ชุมชน ภายในงาน มีจัดการอบรมสร้างความแข็งแกร่ง ด้วยการชี้ช่องทางในการประกอบอาชีพ และผลักดันองค์ความรู้ที่สามารถสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนทั้งในด้านทักษะพื้นฐานการผลิต การบริการ การใช้ความคิดสร้างสรรค์ ช่วยให้ผู้ประกอบอาชีพ ของราชบุรีมีโอกาสเริ่มต้นธุรกิจและเติบโตเป็นผู้ประกอบการใหม่ในชุมชน อย่างเป็นมืออาชีพ อาทิ การทำอาหารไทยสร้างอาชีพ การแปรรูปสมุนไพรสร้างรายได้ เมนูเครื่องดื่มจากบาริสต้ามืออาชีพ เกษตรปรุงดิน สำหรับปลูกผัก ทำปุ๋ยออแกนิคสร้างรายได้ และเทคนิคการถ่ายภาพสินค้าและการทำตลาดออนไลน์ โดย True เน็ตทำกิน ซึ่งผู้เข้าอบรมจะได้รับทักษะความรู้ในด้านต่างๆ เพื่อใช้ในการประกอบอาชีพ เสริมสร้างรายได้ให้กับตนเองและชุมชนต่อไป สำหรับจังหวัดราชบุรี มีพื้นที่ปลูกมะพร้าวกว่า 88,000 ไร่ ในแต่ละปีมีผลผลิตเป็นจำนวนมาก ขณะที่มะพร้าวน้ำหอมเป็นหนึ่งในสินค้าที่ขึ้นทะเบียน สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ Gl ของจังหวัด จึงมีความต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ในหมวดเพื่อการดูแลสุขภาพและความงาม เพื่อเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่สินค้าเกษตร การที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มาร่วมพัฒนายกระดับคุณภาพชีวิตให้คนในพื้นที่ครั้งนี้ จะช่วยส่งเสริมต่อยอดไปยังพ่อค้า แม่ค้า ผู้ประกอบการ ผู้ประกอบอาชีพ ที่สามารถนำทักษะไปเป็นช่องทางทำมาหากินต่อไปได้ จะช่วยให้มีรายได้เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังเสริมสร้างอาชีพใหม่ๆ ให้กับคนในชุมชนได้อีกทางหนึ่งด้วย

  • สกมช. พร้อมพัฒนาคนให้ได้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ รับมือภัยคุกคามไซเบอร์

    15.11.2566
    7,628 View

    สกมช. พร้อมพัฒนาคนให้ได้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ จากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ รับมือภัยคุกคามไซเบอร์ คณะผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ หรือ สกมช. นำโดย พลอากาศตรี อมร ชมเชย เลขาธิการคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ เข้าพบ นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการ และคณะผู้บริหารสถาบัน เพื่อหารือแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการรับมือภัยคุกคามทางไซเบอร์ นางสาวจุลลดา กล่าวว่า บุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ เป็นกลุ่มที่กำลังเป็นที่ต้องการในโลกปัจจุบัน จากการก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลกระทบตั้งแต่ระดับบุคคล หน่วยงาน ไปจนถึงระดับประเทศ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้ร่วมกับ สกมช. ในการพัฒนาบุคลากรด้าน Cyber Security ให้มีความรู้ความเข้าใจ และร่วมกันป้องกันภัยด้านไซเบอร์อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเตรียมขยายองค์ความรู้ด้านไซเบอร์ไปยังผู้เกี่ยวข้องในภูมิภาค ทั้งนี้ ความร่วมมือกัน ไม่เพียงแต่การฝึกอบรมให้ความรู้เท่านั้น แต่ต้องตอบโจทย์การพัฒนากำลังคนให้สามารถทำงานรับมือกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ได้ในทุกรูปแบบ สกมช. เป็นหน่วยงานของรัฐที่มีภารกิจในการกำหนดนโยบาย มาตรการ แนวทางการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ สำหรับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญทางสารสนเทศ เพื่อป้องกัน รับมือ และลดความเสี่ยงจากภัยคุกคามทางไซเบอร์ ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ

  • “คณะซอฟต์พาวเวอร์” ตั้ง “สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ” ร่วมอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร

    10.11.2566
    9,005 View

    “คณะซอฟต์พาวเวอร์” ตั้ง “สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ” ร่วมอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) โดยนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้รับแต่งตั้งเป็นรองประธานอนุกรรมการ คณะกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหาร ภายใต้คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ มีนายชุมพล แจ้งไพร เป็นประธานอนุกรรมการ โดยคณะอนุกรรมการฯ ด้านอาหาร มีหน้าที่ในการรวบรวมข้อมูลและจัดทำนโยบายและแผน พร้อมทั้งแนวทางและมาตรการในการส่งเสริมและพัฒนาอุตสาหกรรมด้านอาหาร และเสนอต่อคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติเพื่อประกอบการทำนโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศ รวมถึงเสนอมมาตรการและแนวทางการดำเนินการ ตลอดจนแนวทางการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานตามนโยบายและแผน เพื่อการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านอาหารอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2566 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้ลงนามแต่งตั้งคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ 11 ด้าน ประกอบด้วยอุตสาหกรรมด้านหนังสือ ด้านเฟสติวัล ด้านอาหาร ด้านการท่องเที่ยว ด้านดนตรี ด้านเกม ด้านกีฬา ด้านศิลปะ ด้านการออกแบบ ด้านภาพยนตร์ ด้านละครและซีรีส์ พร้อมตั้งคณะอนุกรรมการอำนวยการจัดการประชุมนานาชาติด้านซอฟต์พาวเวอร์ และคณะอนุกรรมการจัดทำร่างกฎหมายว่าด้วยการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์เพื่อเศรษฐกิจและสังคม พร้อมสนับสนุนแผนการขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์เพาเวอร์ แบ่งการทำงานเป็น 3 ระยะ ประกอบด้วยระยะ 100 วัน หรือภายใน 11 ม.ค.2567 เปิดให้ลงทะเบียนที่กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง รวมทั้งแก้ไขกฎกระทรวง และจัดงาน Winter Festival ระยะ 6 เดือน หรือภายใน 3 เม.ย.2567 จะเริ่มบ่มเพาะ OFOS(One Family One Soft Power) รวมทั้งเสนอ พ.ร.บ.จัดตั้ง Thailand Creative Content Agency (THACCA) มีการจัดเทศกาล Water Festival และจัดงาน Soft Power Forum และระยะ 1 ปี หรือภายใน 3 ต.ค.2567 กำหนดเป้าหมายบ่มเพาะได้ 1 ล้านคน รวมทั้ง พ.ร.บ.จัดตั้ง THACCA ผ่านรัฐสภา มีการจัดงาน Film Festival และ Music Festival รวมถึงการสนับสนุน Soft Power ไปร่วมงานระดับโลก

  • สคช. ร่วมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนเอกชนนอกระบบทั่วประเทศ จัดการศึกษาที่มีคุณภาพ

    05.11.2566
    8,263 View

    สคช. ร่วมมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ โรงเรียนเอกชนนอกระบบทั่วประเทศ จัดการศึกษาที่มีคุณภาพ 5 พฤศจิกายน 2566 ณ หอประชุมคุรุสภา กระทรวงศึกษาธิการ นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิ ร่วมพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ และพิธีมอบประกาศนียบัตร ผู้ที่สำเร็จการศึกษา จากโรงเรียนเอกชนนอกระบบ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน หรือ สช. เพื่อการส่งเสริมสนับสนุน สร้างขวัญกำลังใจ ให้ผู้บริหาร ครูผู้สอน ผู้เรียน และนักเรียน ที่มีการจัดการศึกษาในภาคเอกชนอย่างมีคุณภาพ และยังผลักดันกำลังคนของโรงเรียนเอกชนให้ได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ โดยมี นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธาน พร้อมด้วยนายมณฑล ภาคสุวรรณ์ เลขาธิการคณะกรรมการการส่งเสริมการศึกษาเอกชน นายชัยณรงค์ กัจฉปานันท์ ผู้จัดการกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา นายพรชัย พิศาลสิษฐ์กุล นายกสมาคมการศึกษาเอกชนนอกระบบ ให้การต้อนรับ นายสิริพงศ์ กล่าวว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของการศึกษา ตามนโยบาย เรียนดี มีความสุข โดยเฉพาะการศึกษาของโรงเรียนเอกชนนอกระบบที่มีความเข้มแข็ง โดยกระทรวงศึกษาธิการ จะมีการพัฒนาหลักสูตรระยะสั้น ผลักดันให้เกิดการเรียนรู้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการศึกษาอย่างเสมอภาค พร้อมดึงคนที่อยู่นอกระบบการศึกษา ให้สามารถกลับเข้าสู่ภาคการศึกษาได้ ทั้งนี้จะร่วมกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ใช้ประโยชน์จากคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อนำไปสู่การกำหนดอัตรารายได้ เพื่อพัฒนาผู้ที่อยู่นอกระบบการศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะถือเป็นก้าวสำคัญสำหรับการพัฒนาการศึกษาไทยที่มีความยั่งยืน ในโอกาสนี้ นางสาวจุลลดา ได้ร่วมมอบโล่เชิดชูเกียรติ ให้กับสถานศึกษาดีเด่น ผู้บริหารสถานศึกษาดีเด่น และครูผู้สอนดีเด่น ที่ได้รับการยกย่องว่ามีการจัดการเรียนการสอน ในโรงเรียนเอกชนนอกระบบ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นางสาวจุลลดา กล่าวว่า ที่ผ่านมาสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้มีความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ กับสมาคมโรงเรียนเอกชนนอกระบบอย่างต่อเนื่อง อาทิ โรงเรียนเอกชนที่เกี่ยวข้องกับ สาขาวิชาชีพธุรกิจเสริมสวย สาขาวิชาชีพบริการสุขภาพ สาขาวิชาชีพการท่องเที่ยว การโรงแรม ภัตตาคารและร้านอาหาร เป็นต้น เพื่อร่วมขับเคลื่อนการจัดการศึกษาของโรงเรียนเอกชนอย่างมีคุณภาพ ทั้งการพัฒนาศักยภาพของผู้สอน บุคลากร และผู้เรียนให้มีความรู้ ทักษะ ตามมาตรฐานอาชีพ พร้อมผลักดันให้มีโอกาสรับคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งถือเป็นการเปิดโอกาสให้คนที่ขาดโอกาสทางการศึกษา ได้มีโอกาสกลับเข้าสู่โลกของการศึกษาได้ อีกทั้งยังนำไปสู่เส้นทางการพัฒนา ต่อยอดไปสู่การมีงานทำ สร้างรายได้ และสร้างความก้าวหน้าในอาชีพต่อไป

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ต้องสร้าง "Trust" ให้กับประชาชน คนทำงาน ในระบบคุณวุฒิวิชาชีพ

    02.11.2566
    7,721 View

    สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ต้องสร้าง "Trust" ให้กับประชาชน คนทำงาน ในระบบคุณวุฒิวิชาชีพ

  • Association for Overseas Technical Cooperation and Sustainable Partnerships (AOTS) และ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) นำโดย Mr.Toshihiko Watanabe พร้อมด้วย Mr.Hirofumi Yamaguchi, AOTS’s expert และดร.จักรกฤษณ์ สิริริน ผู้อำนวยการสายงานการศึกษา ฝึกอบรม และให้คำปรึกษาสถานประกอบการ เข้าพบนางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ

    02.11.2566
    7,638 View

    Association for Overseas Technical Cooperation and Sustainable Partnerships (AOTS) และ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) นำโดย Mr.Toshihiko Watanabe พร้อมด้วย Mr.Hirofumi Yamaguchi, AOTS’s expert และดร.จักรกฤษณ์ สิริริน ผู้อำนวยการสายงานการศึกษา ฝึกอบรม และให้คำปรึกษาสถานประกอบการ เข้าพบนางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ หารือแนวทางการยกระดับบุคลากร ในภาคอุตสาหกรรมระหว่างไทยและญี่ปุ่น ตามโครงการ Smart Monodzukuri Support Team for Thailand ให้สอดคล้องต่อการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิทัล (Digital Transformation : DX) ของประเทศ โดยร่วมกับ สคช. เตรียมจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ อาชีพนักพัฒนาผลิตภาพระบบการผลิต เพื่อสร้างนักพัฒนาผลิตภาพที่มีความรู้ความสามารถในการเพิ่มผลิตภาพ ลดต้นทุน เพิ่มผลกำไร พร้อมได้รับการสนับสนุนตามกระบวนการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ โอกาสนี้ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) โดย ดร.จักรกฤษณ์ สิริริน ผู้อำนวยการสายงานการศึกษา ฝึกอบรม และให้คำปรึกษาสถานประกอบการ จึงแสดงความยินดีต่อนางสาวจุลลดา มีจุล ในโอกาสรับตำแหน่งผู้อำนวยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ

  • สคช. พร้อมยกระดับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ สู่มืออาชีพ รับการกลับมาฟื้นตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

    31.10.2566
    8,944 View

    สคช. พร้อมยกระดับนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ สู่มืออาชีพ รับการกลับมาฟื้นตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานเปิดเวทีเสวนาวิชาการเรื่อง “สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กับวงการอสังริมทรัพย์” ซึ่งจัดโดยมูลนิธิประเมินค่า-นายหน้าแห่งประเทศไทย ในฐานะองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ โดยมี คุณพรเทพ ศรีนฤหล้า รองประธานกรรมการอำนวยการมูลนิธิฯ กล่าวต้อนรับ ซึ่งจัดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อม และยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบอาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ในเครือข่าย รองรับการกลับมาฟื้นตัวของตลาดอสังหาฯ อย่างเต็มรูปแบบ นางสาวจุลลดา กล่าวถึงบทบาทสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ในการพัฒนาวิชาชีพ ในวงการอสังหาริมทรัพย์ว่า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์กลับมาฟื้นตัวอีกครั้งในรอบ 3 ปี ตั้งแต่มีวิกฤตโควิด โดยในปี 2565 มีโครงการเปิดใหม่กว่า 387 โครงการ มูลค่าการพัฒนารวมสูงถึง 4.4 แสนล้านบาท การกลับมาฟื้นตัวของอสังหาฯ ได้เป็นแรงขับให้นายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ต้องเร่งปรับตัว ยกระดับตัวเองให้เป็นนายหน้าฯ ที่มีคุณภาพ เพราะนอกจากจะต้องเป็นผู้ที่มีข้อมูลที่ถูกต้องแล้ว ยังต้องสร้างความน่าเชื่อถือ เข้าใจปัจจัยที่มีผลต่อโอกาสการลงทุนด้วย ทั้งยังเป็นตัวช่วยที่ดี ของการซื้อขายที่ทำให้ผู้บริโภคมีความสะดวกสบาย มั่นใจ และช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ ซึ่งคุณวุฒิวิชาชีพ จะเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญ ในการให้รับรองความรู้ ความสามารถ และทักษะของผู้ประกอบอาชีพ ที่ไม่เพียงเพิ่มโอกาสการทำงาน แต่ยังสร้างความน่าเชื่อถือให้กับนักลงทุนตลอดช่วงของการซื้อขาย สำหรับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. มีมาตรฐานอาชีพที่เกี่ยวข้องกับผู้ประกอบอาชีพในวงการอสังหาฯ อาทิ สาขาวิชาชีพบริหารทรัพย์สิน อาชีพช่างซ่อมบำรุงประจำโครงการที่อยู่อาศัย อาชีพผู้จัดการนิติบุคคลที่อยู่อาศัย อาชีพผู้จัดการอาคารที่อยู่อาศัย สาขาวิชาชีพอุตสาหกรรมก่อสร้างและการผังเมือง อาชีพช่างก่ออิฐ ฉาบปูน ช่างเขียนแบบโครงสร้าง เขียนแบบสถาปัตยกรรม และที่สำคัญที่สุด คือสาขาวิชาชีพธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ อาชีพนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ ตั้งแต่การตรวจสอบทำเล สภาพแวดล้อม ตรวจสอบทรัพย์ตรวจสอบราคาประเมินทางราชการ วิเคราะห์ตลาด ความสามารถทางการเงิน บริการหลังการขาย ไปจนถึงการดำเนินงานกับลูกค้า และนักลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่ง สคช. จะเดินหน้าพัฒนาบุคลากรด้านอสังหาริมทรัพย์ โดยเฉพาะอาชีพนายหน้า เพื่อรองรับการกลับมาฟื้นตัวของตลาดอสังหาฯ อย่างเต็มรูปแบบเพื่อสร้างโอกาสที่นำไปสู่การลงทุนต่อไป

  • สคช. ร่วมส่งมอบสิ่งดีๆ ให้กลุ่มคนไร้บ้าน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร

    27.10.2566
    8,645 View

    สคช. ร่วมส่งมอบสิ่งดีๆ ให้กลุ่มคนไร้บ้าน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วยนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นตัวแทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมกับกรุงเทพมหานคร นำโดย นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร จัดกิจกรรมสาธารณกุศล เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร เนื่องในวันครบรอบ 7 ปี แห่งการเสด็จสวรรคต และได้ดำเนินการจัดกิจกรรมสาธารณกุศล ส่งมอบอาหาร ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตให้กับคนไร้บ้าน ณ จุดสวัสดิการคนไร้บ้าน บริเวณพระแม่ธรณีบีบมวยผม ถนนราชดำเนินใน เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร นางสาวจุลลดา กล่าวว่า จากข้อมูลที่พบว่าพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีคนไร้บ้านไม่น้อยกว่า 1,800 คน ขณะที่คนไร้บ้านทั่วประเทศประมาณ 3,500-4,000 คน ที่ขาดแคลนน้ำ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม และยารักษาโรค สคช. จึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ขึ้น เพื่อเป็นการส่งมอบสิ่งดีๆ ให้กับผู้ด้อยโอกาส โดยเฉพาะกลุ่มคนไร้บ้าน ที่ต้องการปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิตอย่างเหมาะสม ขณะเดียวกันยังเป็นการส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อย ที่ผ่านการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ รับป้ายมืออาชีพ Street Food ย่านถนนข้าวสารมาแล้ว ซึ่งสามารถประกอบอาหารได้อย่างสะอาด ปลอดภัย ตรงตามมาตรฐานกำหนด นั่นหมายความว่าผู้ด้อยโอกาส จะได้รับประทานอาหารที่สะอาด อร่อยและมีคุณภาพด้วย ทั้งนี้ เห็นว่า แม้จะเป็นอาหารเพียงมื้อเดียว แต่ก็ช่วยให้ผู้ด้อยโอกาสเหล่านี้ได้อิ่มท้อง เป็นแรงผลักดันให้สามารถดำรงชีวิตต่อไป สำหรับผู้มีจิตกุศล ที่ต้องการส่งมอบอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของให้กับคนไร้บ้าน พื้นที่กรุงเทพมหานคร สามารถประสานกับทางสำนักเขตพระนคร ในการแจกของจุดที่สำนักงานเขตพระนครกำหนด คือ จุดบริเวณใต้สะพานพระปิ่นเกล้า และอีกหนึ่งจุดที่ บริเวณซอยสาเก ถนนอัษฏางค์ เพื่อให้บริการสวัสดิการที่ครบวงจรในทุกด้านแก่คนไร้บ้าน ทั้งการเข้าถึงสิทธิสวัสดิการด้านต่างๆ และการส่งมอบปัจจัยพื้นฐาน และคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

  • สคช. ร่วม..เติมเต็ม Empower การประกอบอาชีพของผู้พิการ ด้วยการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ

    27.10.2566
    7,323 View

    สคช. ร่วม..เติมเต็ม Empower การประกอบอาชีพของผู้พิการ ด้วยการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ 27 ตุลาคม 2566 ณ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ร่วมงานครบรอบ 10 ปี โครงการฝึกอบรม-ฝึกงานคนพิการ เพื่อเตรียมความพร้อมเข้าทำงาน ในสถานประกอบการและการประกอบอาชีพ..เติม เต็ม Empower ซึ่งมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี จัดขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ประกอบการภาคเอกชน รวมถึงหน่วยงานภาครัฐ ได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาคนพิการให้มีทักษะอาชีพที่สามารถทำงานในสถานประกอบการได้จริง โดยมีนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นประธานเปิดงาน ในการนี้ นางสาวจุลลา ได้ร่วมเวทีเสวนาในหัวข้อ “เติม...เต็ม Empower” ร่วมกับ นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้ริเริ่มโครงการ พร้อมด้วย ศ.วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ และ อ.สุชาติ เพริศพริ้ง ที่ปรึกษาอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี โดยมี ผศ.ดร.บุษเกตน์ อินทรปาสาน ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายพันธกิจสัมพันธ์ของนักศึกษาและผู้เรียนรู้ เป็นผู้ดำเนินรายการ นางสาวจุลลดา กล่าวว่า สถาบันฯ เล็งเห็นความสำคัญของผู้พิการ ที่แม้จะไม่สมบูรณ์แบบทางด้านร่างกาย แต่ยังสามารถทำงานเพื่อหาเลี้ยงชีพและครอบครัวได้ สคช. จะร่วมเป็นหนึ่งในจิ๊กซอว์สำคัญ ในการพัฒนา เสริมทักษะ และความรู้กับผู้พิการตามมาตรฐานอาชีพ ทั้งนี้ ผู้ประกอบอาชีพที่เป็นผู้พิการทุกคน สามารถเข้าสู่การประเมิน เพื่อรับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพได้ โดยที่ผ่านมา สคช. ได้มีการฝึกอบรม ส่งเสริม ให้กับเด็กพิเศษ มีทักษะในเรื่องของการชงกาแฟ เพื่อก้าวสู่การเป็นบาริสต้ามืออาชีพ มีการจัดทำมาตรฐานอาชีพสาขาวิชาชีพการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม สาขาอุตสาหกรรมอาหาร อาชีพผู้ประเมินคุณภาพอาหารด้านประสาทสัมผัส รวมถึงมีการสนับสนุนค่าธรรมเนียมการประเมิน เพื่อให้การเรียนรู้ และบริการต่างๆ สามารถเข้าถึงทุกคน สร้างโอกาส ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และสร้างความมั่นคงในการประกอบอาชีพ ภายในงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้เยี่ยมชมบูธนิทรรศการ E-Workforce Ecosystem Platform (EWE) โดยได้ให้ความสนใจในภารกิจของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และระบบแฟ้มสะสมผลงานอิเล็กทรอนิกส์ E-Portfolio แนวทางการสั่งสมสมรรถนะการเรียนรู้ Competency Credit Bank ในการนี้ นางสาวจุลลดา ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวทางการรับรองคนในอาชีพ ที่จะเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกคน ทุกวัย ในทุกอาชีพ มีสิทธิ์เข้าสู่การวัดระดับความรู้ ความสามารถของตัวเองตามมาตรฐานอาชีพ และมีโอกาสได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการประกอบอาชีพต่อไป

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมวงประชุม Soft Power พร้อมรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ ให้กับผู้มีฝันและอยากทำฝันให้เป็นจริงผ่านศูนย์บ่มเพาะ OFOS

    26.10.2566
    7,645 View

    สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมวงประชุม Soft Power พร้อมรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ ให้กับผู้มีฝันและอยากทำฝันให้เป็นจริงผ่านศูนย์บ่มเพาะ OFOS นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้รับมอบหมายจากรักษาการผู้อำนวยการสถาบัน เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ณ วิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ โดยมีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมได้มีการหารือแนวทางการดำเนินงานของคณะกรรมการ รวมถึงการแต่งตั้งอนุกรรมการๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีแผนโครงการรองรับส่งเสริมให้เกิดซอฟต์พาวเวอร์ในประเทศไทยให้มีศักยภาพ สู่เป้าหมายตามนโยบาย 1 ครอบครัว 1 ซอฟต์พาวเวอร์ (OFOS) และ THACCA ซึ่งจะมีการดำเนินการ 3 ขั้น โดยขั้นที่ 1 การพัฒนาคนผ่านกระบวนการส่งเสริมบ่มเพาะศักยภาพ โดยเฟ้นหาคนที่มีความฝันและอยากทำความฝันนั้นให้เป็นจริง ทุกช่วงอายุ จำนวน 20 ล้านคน จาก 20 ล้านครัวเรือน โดยแจ้งลงทะเบียนกับกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ขั้นที่ 2 การพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ภายในประเทศ 11 ด้าน ประกอบไปด้วย ท่องเที่ยว อาหาร แฟชั่น กีฬา เฟสติวัล ดนตรี ออกแบบ หนังสือ เกม ศิลปะ และภาพยนตร์ และขั้นที่ 3 การนำอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ก้าวสู่เวทีโลก โดยตั้งเป้าภายใน 100 วัน ผู้ที่มีความฝันและอยากทำฝันให้เป็นจริงลงทะเบียนผ่านระบบ โดยกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ให้ได้มากกว่า 1 ล้านคน 1 ล้านครอบครัว โดยผู้ที่มีความฝันจะได้รับการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพด้วย ในส่วนของ THACCA จะเป็นการพัฒนาอุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ และผลักดันการก้าวสู่เวทีโลก ซึ่งจะได้มีการเสนอแก้ไขกฎกระทรวงเพื่อรองรับต่อไป ขณะที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มีมาตรฐานอาชีพหลากหลายเตรียมพร้อมเพื่อรองรับการพัฒนาคนผ่านกระบวนการส่งเสริมบ่มเพาะศักยภาพ ตอบโจทย์อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ตาม Quick Win 11 ด้าน ทั้งท่องเที่ยว อาหาร กีฬา ดนตรี เกม ศิลปะและภาพยนตร์ ที่พร้อมให้การรับรองด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ รวมถึงมีหลักสูตรการฝึกอบรมตามมาตรฐานอาชีพผ่านระบบ E-Training อีกกว่า 558 หลักสูตร ซึ่งสอดคล้องกับการ “เรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา” และพัฒนาให้เป็นกำลังคนทักษะสูงได้ไปพร้อมกัน

  • สคช. มอบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ยกระดับช่างทำผมบุรุษ-สตรี และช่างทำเล็บ สู่การเป็นครูผู้สอน

    25.10.2566
    7,633 View

    สคช. มอบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ยกระดับช่างทำผมบุรุษ-สตรี และช่างทำเล็บ สู่การเป็นครูผู้สอน 25 ตุลาคม 2566 ณ โรงแรมเดอะพาลาสโซ กรุงเทพมหานคร นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานมอบใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ให้กับผู้ผ่านการประเมินสมรรถนะของบุคคล ในสาขาวิชาชีพธุรกิจเสริมสวยและเสริมสร้างสุขภาพร่างกาย อาชีพผู้สอนทำผมบุรุษ อาชีพผู้สอนทำผมบุรุษ-สตรี ผู้สอนทำเล็บ ระดับ 6 พร้อมด้วยช่างทำผมบุรุษ ช่างทำผมสตรี อาชีพช่างสักคิ้ว ช่างทำเล็บ ระดับ 4 และช่างต่อขนตา ระดับ 2 ยกระดับช่างเสริมสวยกว่า 120 คน สู่ความเป็นมืออาชีพ โดยมีนายพรชัย พิศาลสิษฐ์กุล ผู้บริหารโรงเรียนการจัดการวิชาชีพเสริมสวยและความงาม องค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ และฐานะนายกสมาคมการศึกษาเอกชนนอกระบบ (ประเทศไทย) ให้การต้อนรับ นางสาววรชนาธิป กล่าวว่า ช่างเสริมสวย เป็นหนึ่งในอาชีพอิสระที่ภาครัฐให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะมีความใกล้ชิดกับสังคมไทยมาต่อเนื่อง ขณะที่การให้บริการของช่างเสริมสวยของไทย ยังได้รับการยอมรับจากนานาชาติ สามารถสร้างรายได้อย่างมหาศาล ดังนั้นการที่ช่างเสริมสวย ไม่ว่าจะเป็น ช่างทำผม ช่างทำเล็บ ช่างสักคิ้ว หรือแม่แต่ช่างต่อขนตา ได้มีโอกาสได้พัฒนาศักยภาพให้มีมาตรฐาน นำไปสู่การยอมรับได้ โดยเฉพาะหากได้รับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพในวันนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญอีกห้างหนึ่ง ที่นอกจากเป็นการยืนยันถึงความสามารถในการให้บริการลูกค้าอย่างมีคุณภาพ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มาใช้บริการได้ ยังช่วยสร้างความภาคภูมิใจแล้ว ในการประกอบอาชีพ เพราะแม้บางคนไม่มีต้นทุนทางการศึกษา ก็จะมีคุณวุฒิวิชาชีพที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือได้ ทั้งนี้ อยากให้ช่างเสริมสวยทุกคน หมั่นเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของเทคโนโลยี การใช้โซเชียล มีเดีย รวมถึงความเทรนด์ของโลก เพื่อปรับตัวให้รองรับและทันต่อทุกความเปลี่ยนแปลง เพื่อสร้างความมั่นคง และยั่งยืนในการประกอบอาชีพต่อไป

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมฟังทิศทางอนาคตประเทศไทย จากนายกรัฐมนตรี โดยเน้นยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น

    24.10.2566
    7,249 View

    สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมฟังทิศทางอนาคตประเทศไทย จากนายกรัฐมนตรี โดยเน้นยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้ดีขึ้น นางสาวจุลลดา มีจุล รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบัน เข้าร่วมร่วมฟังทิศทางอนาคตประเทศไทย จากนายกรัฐมนตรี ในงานดินเนอร์ ทอล์ค Thailand Future อนาคตประเทศไทย 2024 โดยมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลังปาฐกถาทิศทางอนาคตประเทศไทย นายกรัฐมนตรี กล่าวตอนหนึ่งถึงปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม ว่าเป็นปัญหาใหญ่มากต้องแก้ไข ความขัดแย้ง เป็นเรื่องทางความคิด แต่หลายอย่างเกิดจากความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจ ของคนมีกับคนไม่มี ซึ่งต้องช่วยมองอย่างเป็นธรรม คนจะอยู่ไม่ได้ถ้ารัฐบาลไม่ช่วย แต่ภาครัฐจะต้องช่วยอย่างสุจริต กระตุ้นตรงจุด วิธีการชัดเจน เราพยายามเต็มที่ ไม่อยู่บนความขัดแย้ง หลายคนเป็นกำลังใจ หลายคนมีข้อสงสัยไม่มั่นใจทิศทางที่เราไป ความเห็นต่างแต่ต้องอยู่กันให้ได้ แม้รัฐบาลจะเหน็ดเหนื่อยกับการอธิบาย แต่เป็นหน้าที่ เพราะรัฐบาลมีความมุ่งหวังยกระดับคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ของคนไทยในทุกมิติ