สคช.เตรียมจับมือกรมพลศึกษาและเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง พัฒนาบุคลากรกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ โดยเฉพาะผู้ที่ต้องปฏิบัติงานการให้บริการทางด้านการกีฬา หวังป้อนบุคลากรที่มีคุณภาพและตรงกับความต้องการของสถานประกอบการและตลาดงาน
นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำคณะเข้าพบหารือกับนายมงคล วิมลรัตน์ อธิบดีกรมพลศึกษา, นายสุธน วิชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาบุคลากรการพลศึกษาและการกีฬา และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านพัฒนาการกีฬา, ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาผู้ตัดสินกีฬา, ผู้อำนวยการกลุ่มพัฒนาผู้ฝึกสอน เพื่อวางแนวทางในการทำความร่วมมือระหว่างกันในการนำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพการกีฬา สาขาการให้บริการทางด้านการกีฬา อาทิ อาชีพผู้ตัดสินกีฬา, อาชีพผู้ฝึกสอนกีฬา, อาชีพผู้ชี้ขาดมวยไทย(ทำหน้าที่บนเวทีมวย), อาชีพผู้ตัดสินมวยไทย(ทำหน้าที่ให้คะแนน), อาชีพครูมวยไทยเพื่อสุขภาพและ อาชีพครูมวยไทยเพื่อการแข่งขันอละอาชีพ มาเชื่อมโยงกับหลักสูตรของกรมพลศึกษา ซึ่งมีการจัดการฝึกอบรมแก่บุคลากรทั่วประเทศ โดย ผอ.สคช. กล่าวว่า สคช.มองเห็นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นในการนำมาตรฐานอาชีพสาชาวิชาชีพการกีฬา มาพัฒนาศักยภาพของบุคลากรในสังกัดกรมพลศึกษา เพื่อให้เกิดการยอมรับและสร้างความเชื่อมั่น ในระดับสากล เนื่องจากปัจจุบันมีสมาคมกีฬา และอะคาเดมี่ฝึกสอนกีฬาต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย อีกทั้งกรมพลศึกษาในฐานะหน่วยงานที่ผลิตบุคลากรในวิชาชีพนี้โดยเฉพาะ หากผลักดันให้บุคลากรพัฒนาตนเองเข้าสู่การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ จะเกิดประโยชน์ต่อภาพรวมของประเทศมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผอ.สคช.ยังได้แนะนำ EWE Platform ที่จะสามารถเชื่อมโยงในเรื่องของหลักสูตรร่วมกันได้อีกด้วย
ขณะที่ อธิบดีกรมพลศึกษากล่าวว่า ปัจจุบันโลกเปลี่ยนแปลงไปมาก อุตสาหกรรมบริการโดยเฉพาะด้านกีฬาได้รับความสนใจมากขึ้น กรมพลศึกษาต้องผลิตบุคลากรป้อนอุตสาหกรรมเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตามมองว่า 20 กว่าหลักสูตรของกรมพลศึกษา อย่างน้อยบุคลากรที่ผ่านหลักสูตรดังกล่าว จะต้องได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ ระดับ 3 จากนั้นแต่ละคนก็ยังสามารถพัฒนาตนเองขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นอยากให้เกิดความร่วมมือกันโดยเฉพาะอาชีพที่เป็นพื้นฐานของกีฬา อาทิ ผู้ฝึกสอนกีฬาชนิดต่างๆ โดยเฉพาะมวยไทย ที่มีความต้องการในตลาดโลกสูงขึ้นมาก นอกจากนี้ อยากให้เกิดความร่วมมือในอาชีพที่เกี่ยวข้องกับอาชีพผู้นำเต้นแอโรบิค ซึ่งกรมพลศึกษามีการหารือกับกระทรวงสาธารณสุขในเรื่องนี้ จึงเชื่อมั่นว่าหากนำมาตรฐานอาชีพด้านวิทยาศาสตร์การกีฬาที่สคช.มีอยู่มาจัดทำเป็นหลักสูตรและนำไปสู่การรับรองสมรรถนะของบุคคลนั้นๆ จะช่วยอัปสกิลให้กับกลุ่มอสม.ทั่วประเทศได้อย่างแน่นอน