5 ปัจจัยที่คุณนำมาเรียกเงินเดือนเพิ่มได้

วันที่ : 20/12/2567
เข้าชม : 39 คน
แบ่งปัน

 

การเปลี่ยนงานเป็นช่องทางของการเรียกเงินเดือนเพิ่มก็จริง แต่ปัจจัยอะไรบ้างละ ที่คุณควรจะนำมาประมวลผลเพื่อแปรออกมาเป็นตัวเลข ว่าควรเรียกเพิ่มในจำนวนเท่าไร มากน้อยแค่ไหนจากงานเดิม ไม่ใช่เรียกไปโดยไม่คำนึงถึงความคุ้มค่าใด ๆ

 

1. เรตเงินเดือนพื้นฐานของตำแหน่งที่คุณทำ

สิ่งแรกที่คุณต้องนำมาประเมินในการเรียกเงินเดือนเพิ่มคือ “เรตเงินเดือนพื้นฐาน” ในสายงานที่คุณทำ หากไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหนก่อน แนะนำให้ตั้งต้นจากสิ่งนี้เป็นอย่างแรก ลองดูราคากลางในตลาดทั่วไปว่า ปกติแล้วมีเรตอยู่ที่ประมาณเท่าไร เพราะถ้าคุณตั้งสูงไปก็อาจจะทำให้ทางบริษัทที่คุณยื่นสมัครไปลังเลได้ หรือหากตั้งน้อยไป คุณเองก็เป็นฝ่ายเสียโอกาส อย่างไรก็ตาม การเรียกเงินเดือนยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องนำมาพิจารณาควบคู่กันไปด้วย ไม่ได้มีสูตรอะไรตายตัว ถึงคุณเรียกเงินไปสูงแต่หากคุณมีประสบการณ์ แล้วงาน ๆ นั้นต้องอาศัยความเฉพาะด้านแบบลงลึก มีสกิลต่าง ๆ แบบพร้อมทำงาน คุณเองก็สามารถเอา “จุดแข็ง” ส่วนนี้ มาใช้เรียกเงินได้สูงกว่าราคาตลาดได้

 

2. สวัสดิการต่าง ๆ ของบริษัทใหม่

นอกจาก “ตัวเลขรายได้” ที่คุณต้องพิจารณาแล้ว สวัสดิการและค่าตอบแทนส่วนต่าง ๆ ยังต้องนำมาคิดประกอบกัน บางที่อาจจะแลกมากับระบบการทำงานที่ยืดหยุ่น เน้นการ Work from home หรือทำงานแบบ Hybrid เข้าออฟฟิศ 2-3 วัน เบิกค่าเดินทางและค่าอินเทอร์เนตได้ หรือมีอาหารกลางวันให้รับประทานฟรี รวมถึงสามารถเบิกค่าเรียนคอร์สต่าง ๆ เพื่อพัฒนาตัวเองได้ ซึ่งทั้งหมดนี้เมื่อนำมาคำนวณรวม ๆ แล้ว น่าจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายบางส่วนได้ คุณก็อาจจะลดตัวเลขเงินเดือนที่เรียกไปลงได้

 

3. ค่าใช้จ่ายส่วนอื่น ๆ ที่เพิ่มเข้ามา

ส่วนนี้เป็นค่าใช้จ่ายแฝงที่บางคนอาจมองข้าม การย้ายที่ทำงานใหม่ เสมือนเป็นการเปลี่ยนสังคมใหม่ไปในตัว โดยสังคมที่ว่านั้นเป็นเรื่องของค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าภาษีสังคม ค่ากินค่าอยู่ต่าง ๆ หากออฟฟิศนั้นมีทำเลอยู่ย่านใจกลางเมือง ค่าครองชีพต่าง ๆ ย่อมสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว แน่นอนว่าไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตย่อมเปลี่ยนไป ทั้งเพื่อนร่วมงาน การสังสรรค์ต่าง ๆ สิ่งเหล่านี้เป็น Fix cost ที่ควรนำมาคิดด้วย เพราะมีผลต่อการคิดคำนวณการขึ้นเงินเดือน

 

4.ค่าประสบการณ์และความเก๋า

ใครที่เพิ่งจบใหม่หรือทำงานมาได้ไม่กี่ปี อาจจะให้น้ำหนักในการพิจารณาข้อนี้น้อยหน่อย เพราะส่วนนี้เป็นเรื่องของประสบการณ์ ความช่ำชองในสายงานล้วน ๆ ยิ่งคุณมีทักษะมาก เรียกว่าคลุกคลีกับงานจนพร้อมเริ่มงานได้ทันทีแบบไม่ต้องเรียนรู้อะไรมาก ยิ่งเป็นจุดแข็งในการเรียกเงินเดือนเพิ่ม ทั้งนี้การเรียนเพิ่มเติมและฝึกอบรมในหลักสูตรต่าง ๆ รวมถึงผลงานชิ้นโบแดงอันสุดแสนจะภูมิใจ สามารถนำมาพิจารณาแปรเปลี่ยนเป็นค่าเงินได้เช่นเดียวกัน เพราะทั้งหมดนั้นแสดงถึงคุณค่าและความสามารถของเรา ทั้งยังเป็นการแสดงให้เจ้านายใหม่เห็นว่า เงินเดือนที่เราเรียกไปนั้นเหมาะสมกับความสามารถที่เรามี

 

5.ลักษณะงานใหม่และความท้าทายที่ต้องทำ

เป็นธรรมดาในโลกธุรกิจ เงินเดือนที่เพิ่มขึ้นย่อมตามมาด้วยภาระงานที่มากขึ้น ยากขึ้นและชาเลนจ์กว่าเดิม คงไม่มีใครเพิ่มเงินเดือนให้คุณง่าย ๆ โดยไม่แลกกับอะไร เพราะฉะนั้นอย่าลืมพิจารณาและสอบถามถึงสโคปงานให้ชัดเจนถี่ถ้วน ก่อนที่คุณจะตัดสินใจย้ายไป เนื้องานเป็นอย่างไร มีทีมซัพพอร์ตคุณหรือไม่ หรือคุณเป็นคนเดียวที่ต้อง Hold งานนี้เองทั้งหมด ดูแล้วต้องใช้ความทุ่มเทในการทำงานสูงกว่างานเก่ามากน้อยแค่ไหน เพราะรายละเอียดเหล่านั้น เป็นสิ่งที่คุณต้องนำมาประเมินถึงความคุ้มค่ากับเงินเดือนที่จะเรียกไปด้วย ในทางกลับกัน หากคุณมองว่าความท้าทาย หรืออะไรที่ชาเลนจ์ เป็นสิ่งที่ทำให้คุณเติบโตในสายงาน หรือเป็นโอกาสที่ดีได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อาจจะพอมองข้ามเรื่องเหล่านี้ได้

 

วิธีคำนวณเงินเดือนใหม่ที่ควรเรียก เมื่อไตร่ตรองทั้ง 5 ปัจจัยด้านบนมาอย่างรอบด้านแล้ว ถึงเวลาเข้าสู่เรื่องของตัวเลขกันบ้าง ปกติแล้วอัตราการเรียกเงินเดือนเมื่อย้ายงานใหม่ จะอยู่ราว 10-30% ของเงินเดือนเก่า โดยเงินเดือนเก่าที่ว่านั้นรวมรายได้ทั้งหมดที่คุณได้รับ ทั้งฐานเดือนและค่าคอมมิชชัน หรือรายได้อื่น ๆ ที่คุณได้รับจากทางบริษัท

 

ที่มา : JobsDB