ข่าวประชาสัมพันธ์

  • ประกาศการจัดสรรทุน เพื่อสนับสนุนค่าธรรมเนียม การประเมินมาตรฐานอาชีพและสมรรถนะสนับสนุนการทำงาน สำหรับองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ประจำปีงบประมาณ 2568

    11.10.2567
    173 View

    ประกาศการจัดสรรทุน เพื่อสนับสนุนค่าธรรมเนียม การประเมินมาตรฐานอาชีพและสมรรถนะสนับสนุนการทำงานสำหรับองค์กรที่มีหน้าที่รับรอง สมรรถนะบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ประจำปีงบประมาณ 2568 สแกน Qr Code เพื่อดูข้อมูลเพิ่มเติม

  • นายนิธิวัชร์ ศิริปริยพงศ์ รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมงานแถลงข่าวโครงการส่งเสริมศิลปินและธุรกิจเทศกาลดนตรีของไทยสู่ตลาดสากล (Music Exchange) ที่มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมดนตรีของไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ

    07.10.2567
    264 View

    นายนิธิวัชร์ ศิริปริยพงศ์ รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมงานแถลงข่าวโครงการส่งเสริมศิลปินและธุรกิจเทศกาลดนตรีของไทยสู่ตลาดสากล (Music Exchange) ที่มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมดนตรีของไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ ซึ่งสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ ร่วมกับคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านดนตรี โดยมีนายสุรพงษ์ สืบวงษ์ลี รองประธานที่ปรึกษา คณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี, นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์, นายวิเชียร ฤกษ์ไพศาล ผู้ก่อตั้งค่ายจีนี่เรคคอร์ด พร้อมด้วยอีกหลากหลายผู้ก่อตั้งค่ายเพลง และอยู่ในแวดวงธุรกิจดนตรี รวมไปถึงศิลปินหลากหลายวง ที่มาร่วมในการแถลงข่าว ณ สตูดิโอ 4 โอกาสนี้ ดร.ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ได้ปาฐกถาหัวข้อ “Time for Thai Tune : How to Globalize Thailand’s Music Industry ถึงเวลาอุตสาหกรรมดนตรีของไทย ดันไกลสู่สากล” โดยกล่าวว่า CEA มองเห็นว่าอุตสาหกรรมดนตรีของไทยและศิลปินไทย มีศักยภาพไม่แพ้ใคร ทั้งยังมีโอกาสในการเติบโตได้อีกในอนาคต จากตัวเลขการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมดนตรีของไทยในปี 2566 ที่สร้างมูลค่ากว่า 108 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.6 พันล้านบาท รวมถึงการที่ศิลปินไทยรุ่นใหม่ มีโอกาสไปสร้างชื่อเสียงพร้อมเผยแพร่ภาพลักษณ์ของประเทศในวงการดนตรีระดับสากลมากขึ้น โครงการ Music Exchange จะประกอบด้วย 2 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรม PUSH ที่จะเน้นผลักดันและส่งเสริมศิลปินไทยให้มีโอกาสไปแสดงผลงานในเทศกาลดนตรีระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ งานเทศกาลไทย (Thai Festival) และเทศกาลดนตรีอื่น ๆ ในต่างประเทศที่จัดโดยหน่วยงานเครือข่ายของ CEA และกิจกรรม PULL ที่มีเป้าหมายในการเชิญชวนผู้จัดและเอเจนซี่จากเทศกาลดนตรีระดับนานาชาติ รวมถึงบุคลากรสำคัญในอุตสาหกรรมดนตรีระดับโลกให้เข้ามาศึกษาดูงานที่ประเทศไทย เพื่อสร้างโอกาสและเครือข่ายทางธุรกิจร่วมกัน

  • นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ร่วมถวายแจกันดอกไม้และลงนามถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี

    10.10.2567
    265 View

    นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ร่วมถวายแจกันดอกไม้และลงนามถวายพระพร สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ให้ทรงมีพระพลานามัยที่แข็งแรงและหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ววัน ณ บริเวณชั้น ๑ อาคารศูนย์การแพทย์มะเร็งวิทยาจุฬาภรณ์ โรงพยาบาลจุฬาภรณ์

  • ระวังเพจปลอม

    09.10.2567
    403 View

    เนื่องด้วยขณะนี้ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) พบว่ามีผู้ปลอมแปลงใช้ข้อมูล สคช. ทำเพจปลอมขึ้นมา และทักข้อความผ่านแชทเชิญชวนให้ทำอาชีพเสริมออนไลน์ สคช. ขอแจ้งเตือนทุกท่าน ให้ระวังอย่าได้หลงเชื่อ แชร์ต่อ หรือกดคลิกลิงก์ข้อความใดๆ และอย่าปล่อยให้ใครต้องตกเป็นเหยื่อ!! โดยสามารถตรวจสอบข้อมูล หรือแจ้งเบาะแสมายังเจ้าหน้าที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ได้ที่ 063 373 3926

  • นายนิธิวัชร์ ศิริปริยพงศ์ รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมงานแถลงข่าวโครงการส่งเสริมศิลปินและธุรกิจเทศกาลดนตรีของไทยสู่ตลาดสากล (Music Exchange) ที่มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมดนตรีของไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ

    09.10.2567
    406 View

    นายนิธิวัชร์ ศิริปริยพงศ์ รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมงานแถลงข่าวโครงการส่งเสริมศิลปินและธุรกิจเทศกาลดนตรีของไทยสู่ตลาดสากล (Music Exchange) ที่มุ่งยกระดับอุตสาหกรรมดนตรีของไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ ซึ่งสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ ร่วมกับคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมด้านดนตรี โดยมีนายสุรพงษ์ สืบวงษ์ลี รองประธานที่ปรึกษา คณะที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี, นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์, นายวิเชียร ฤกษ์ไพศาล ผู้ก่อตั้งค่ายจีนี่เรคคอร์ด พร้อมด้วยอีกหลากหลายผู้ก่อตั้งค่ายเพลง และอยู่ในแวดวงธุรกิจดนตรี รวมไปถึงศิลปินหลากหลายวง ที่มาร่วมในการแถลงข่าว ณ สตูดิโอ 4 โอกาสนี้ ดร.ชาคริต พิชญางกูร ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ได้ปาฐกถาหัวข้อ “Time for Thai Tune : How to Globalize Thailand’s Music Industry ถึงเวลาอุตสาหกรรมดนตรีของไทย ดันไกลสู่สากล” โดยกล่าวว่า CEA มองเห็นว่าอุตสาหกรรมดนตรีของไทยและศิลปินไทย มีศักยภาพไม่แพ้ใคร ทั้งยังมีโอกาสในการเติบโตได้อีกในอนาคต จากตัวเลขการเติบโตอย่างต่อเนื่องของอุตสาหกรรมดนตรีของไทยในปี 2566 ที่สร้างมูลค่ากว่า 108 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 3.6 พันล้านบาท รวมถึงการที่ศิลปินไทยรุ่นใหม่ มีโอกาสไปสร้างชื่อเสียงพร้อมเผยแพร่ภาพลักษณ์ของประเทศในวงการดนตรีระดับสากลมากขึ้น โครงการ Music Exchange จะประกอบด้วย 2 กิจกรรม ได้แก่ กิจกรรม PUSH ที่จะเน้นผลักดันและส่งเสริมศิลปินไทยให้มีโอกาสไปแสดงผลงานในเทศกาลดนตรีระดับนานาชาติที่มีชื่อเสียงในต่างประเทศ งานเทศกาลไทย (Thai Festival) และเทศกาลดนตรีอื่น ๆ ในต่างประเทศที่จัดโดยหน่วยงานเครือข่ายของ CEA และกิจกรรม PULL ที่มีเป้าหมายในการเชิญชวนผู้จัดและเอเจนซี่จากเทศกาลดนตรีระดับนานาชาติ รวมถึงบุคลากรสำคัญในอุตสาหกรรมดนตรีระดับโลกให้เข้ามาศึกษาดูงานที่ประเทศไทย เพื่อสร้างโอกาสและเครือข่ายทางธุรกิจร่วมกัน

  • สคช. ลั่น!! มีมาตรฐานอาชีพด้านความปลอดภัยในการทำงานของผู้ขับขี่-ติดตั้งก๊าซรถยนต์อยู่แล้ว วอนให้ใช้ประโยชน์ หวังลดเหตุการณ์ซ้ำรอยไฟไหม้รถบัสนักเรียน

    04.10.2567
    885 View

    สคช. ลั่น!! มีมาตรฐานอาชีพด้านความปลอดภัยในการทำงานของผู้ขับขี่-ติดตั้งก๊าซรถยนต์อยู่แล้ว วอนให้ใช้ประโยชน์ หวังลดเหตุการณ์ซ้ำรอยไฟไหม้รถบัสนักเรียน นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กล่าวถึงกรณีอุบัติเหตุรถบัสนักเรียนไฟไหม้บริเวณใกล้ทางแยกต่างระดับอนุสรณ์สถาน ถนนวิภาวดีรังสิต ทำให้ครู-นักเรียนเสียชีวิต 23 ศพ บาดเจ็บ 3 ราย ย้ำว่าสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) หรือ สคช. ได้ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยในทุกอาชีพ และได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญ สถานประกอบการ สมาคม สมาพันธ์ คนในอาชีพ จัดทำมาตรฐานอาชีพขึ้นมารองรับเพื่อให้การรับรองคุณภาพของคนทำงาน โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สคช. ก็มีมาตรฐานอาชีพ ในอาชีพผู้ขับขี่รถทัวร์โดยสาร, อาชีพช่างติดตั้งส่วนควบและอุปกรณ์ของรถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอัดเป็นเชื้อเพลิง และอาชีพช่างติดตั้งส่วนควบและอุปกรณ์ของรถยนต์ที่ใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวเป็นเชื้อเพลิง แต่ยอมรับว่าผู้ประกอบการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายภาคส่วน ยังไม่ให้ความสำคัญหรือนำไปใช้ประโยชน์อย่างจริงจัง “เราเชื่อว่าหากผู้ประกอบการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขับเคลื่อนให้คนในอาชีพที่เกี่ยวกับการให้บริการรถสาธารณะ การติดตั้งก๊าซในรถต่างๆ ได้รับการอบรมที่ถูกต้องตามมาตรฐาน ได้รับการประเมิน และรับรองสมรรถนะการทำงาน ก็จะทำให้คนที่ใช้บริการเกิดความมั่นใจ หรืออุ่นใจมากยิ่งขึ้น แต่ยอมรับว่าภารกิจของสถาบันไม่ได้เป็นภาคบังคับ แต่เป็นการส่งเสริมให้เกิดการใช้ประโยชน์ จึงต้องอาศัยกลไกจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้ร่วมกันใช้ประโยชน์จากสิ่งหน่วยงานภาครัฐมีอยู่และทำอยู่ ก็จะช่วยลดอัตราการสูญเสียที่อาจจะเกิดขึ้นได้” นางสาวจุลลดา กล่าว นางสาวจุลลดา ย้ำว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถสร้างกลไก ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการติดตั้ง การซ่อมบำรุงระบบแก๊สที่ใช้กับรถยนต์ให้ผ่านกระบวนการอบรม และรับรอง (Certified) ตามมาตรฐานอาชีพ เพื่อให้รู้ว่าคนที่ทำงานด้านนี้มีคุณภาพตามมาตรฐานการทำงานในเรื่องนั้นๆ รวมถึงสถานประกอบการก็ควรส่งเสริมให้ลูกจ้าง เข้าสู่กลไก อบรม ประเมินเพิ่มเติมความรู้ ขับเคลื่อนให้เป็นระบบ ก็จะทำให้สังคมเกิดความปลอดภัยได้มากขึ้น คนใช้บริการก็จะมั่นใจมากขึ้นว่าใช้บริการจากผู้ให้บริการที่มีมาตรฐาน แม้อุบัติเหตุอาจจะเกิดขึ้นได้จากปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ รวมถึงจิตสำนึกของคนขับ แต่สมรรถนะการทำงานเป็นสิ่งสำคัญที่ยืนยันได้มากกว่าการทำได้ ทำเป็น จากนี้จึงต้องช่วยกันนำมาตรฐานอาชีพที่มีอยู่ไปใช้ให้เป็นรูปธรรมให้มากที่สุด ซึ่งหากสนใจมาตรฐานอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการทำงานสามารถติดต่อสอบถามกับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้ทุกช่องทาง รวมทั้งผ่าน Call center 063-373-3926

  • สคช. หารือร่วมกับ สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ เกี่ยวกับแนวทางและแผนการจัดสอบสมรรถนะสนับสนุนการทำงานด้านการใช้ดิจิทัล (Digital Literacy)

    03.10.2567
    962 View

    นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ หารือร่วมกับ ดร.ทรายทอง พวกสันเทียะ และ ดร.วารุณี เลียววิวัฒน์ชัย รองผู้อำนวยการสถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ และคณะ เกี่ยวกับแนวทางและแผนการจัดสอบสมรรถนะสนับสนุนการทำงานด้านการใช้ดิจิทัล (Digital Literacy) ซึ่ง สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทศ. ได้รับการรับรองเป็นองค์กรรับรองของสคช.ในขอบข่ายสมรรถนะสนับสนุนการทำงานด้านการใช้ดิจิทัล (Digital Literacy) เพื่อนำไปวางแผนที่จะจัดสอบในปีงบประมาณ 2568 ต่อไป โดยปัจจุบันมีผู้ที่ผ่านการทดสอบและอยู่ระหว่างขอรับหนังสือรับรองสมรรถนะ แบ่งเป็น DL1 จำนวน 282 คน และ DL2 จำนวน 204 คน รวมจำนวน 486 คน โอกาสนี้ นางสาวจุลลดา กล่าวว่า สคช.สนับสนุนและส่งเสริมให้ทุกองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคล และองค์กรให้บริการฝึกอบรม ภายใต้การรับรองของสถาบัน ได้ให้ผู้สมัครเข้าสู่การประเมินได้ลงทะเบียนการใช้งานผ่านแพลตฟอร์มอัจฉริยะ E-Workforce Ecosystem Platform หรือ (EWE) เพื่อที่จะได้สามารถเข้าใช้บริการ E-Certificate ได้อัตโนมัติ อีกทั้งยังสามารถเข้าไปฝึกพัฒนาตนเองให้มีสมรรถนะที่สูงขึ้น หรือสามารถพัฒนาตนเองในทักษะใหม่ๆ ได้อีกด้วย อีกทั้งปัจจุบัน สถาบันได้เชื่อมข้อมูลกับแอป “ทางรัฐ” เพื่อรองรับการใช้งานของผู้ที่ผ่านการประเมิน หรือผู้ที่สนใจที่จะเข้าสู่การประเมินสมรรถนะอีกช่องทางหนึ่งด้วย

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ หารือ บริษัท ฟีลีเซีย (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อแนะนำสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพแก่บุคลากรในสถานประกอบการ สาขาวิชาชีพอัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่า

    02.10.2567
    1,074 View

    วันที่ 2 ต.ค. 67 นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วย ดร.ศิริพรรณ ชุมนุม ที่ปรึกษาคณะกรรมการสถาบัน และผู้บริหารสถาบันการอาชีวศึกษากรุงเทพมหานคร ผู้บริหารจากกาญจนาภิเษกวิทยาลัย ช่างทองหลวง เข้า พบ Miss Vibeke Lyssand Leirvag (Managing Director) และทีมงาน บริษัท ฟีลีเซีย (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อแนะนำสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับการให้การรับรองคุณวุฒิวิชาชีพแก่บุคลากรในสถานประกอบการ สาขาวิชาชีพอัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่า และ สาขาวิชาชีพบริการการศึกษาวิจัย และภาษา อาชีพครูฝึกในสถานประกอบการ ซึ่งบริษัท Felicia มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตเครื่องประดับ เป็นการผลิตที่ผสมผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่กับประสบการณ์และฝีมือของช่างฝีมือชาวเอเชีย เพื่อผลิตชิ้นงานที่มีคุณค่าซึ่งเหมาะกับแบรนด์หรือแนวคิดตามความต้องการของลูกค้า

  • สคช. ร่วมกรมทหารสื่อสารที่ 1 ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน จัดอบรมเพิ่มทักษะ ให้ทหารกองประจำการผลัด 2/2565 ได้เตรียมพร้อมต่อยอดชีวิตก่อนปลดประจำการ

    01.10.2567
    1,161 View

    สคช. ร่วมกรมทหารสื่อสารที่ 1 ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน จัดอบรมเพิ่มทักษะ ให้ทหารกองประจำการผลัด 2/2565 ได้เตรียมพร้อมต่อยอดชีวิตก่อนปลดประจำการ นายนิธิวัชร์ ศิริปริยพงศ์ รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วย พันเอกไตรศักดิ์ ทุมเพชร รองผู้บังคับการกรมทหารสื่อสารที่ 1 กองทัพบก ร่วมมอบวุฒิบัตรการอบรมวิชาชีพ แก่ทหารกองประจำการ จำนวน 117 นาย ที่ผ่านการฝึกอบรมวิชาชีพ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือระหว่างกระทรวงกลาโหมและสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อส่งเสริมและเปิดโอกาสให้ทหารกองประจำการ มีโอกาสเพิ่มทักษะอาชีพ โดยมุ่งหวังให้สามารถนำไปต่อยอดการประกอบอาชีพหลังปลดประจำการได้ การฝึกอบรมวิชาชีพ จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 23-28 กันยายน 2567 ประกอบด้วย 3 หลักสูตร ได้แก่ 1.หลักสูตรฝึกอบรมช่างบำรุงรักษามอเตอร์ไซต์ ใช้เวลาอบรม 5 วัน , 2. หลักสูตรฝึกอบรมสมรรถนะสนับสนุนการทำงานด้านการใช้อีคอมเมิร์ซระดับ 2 ระดับการประยุกต์ ใช้เวลาอบรม 3 วัน และ 3.หลักสูตรฝึกอบรมอาชีพบาริสต้า ใช้เวลาอบรม 3 วัน จำนวน 2 รอบ ซึ่งได้รับความสนใจจากน้องๆทหารกองประจำการที่เลือกเข้ารับการฝึกอบรมตามความสนใจ และมีหลายคนที่มุ่งมั่นจะนำไปใช้ประกอบอาชีพหลังปลดประจำการด้วย นอกจากนี้ ทุกคนยังได้มีโอกาสเข้าใช้งานในแพลตฟอร์มอัจฉริยะด้านกำลังคน E-Workforce Ecosystem Platform ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยในการสะสมประวัติการทำงาน ผลงาน และประสบการณ์ มีช่องทางให้เข้าไปพัฒนาตนเองได้อีกในอนาคตผ่านหลักสูตรต่างๆ ในระบบ E-Training ทำให้สามารถติดตามความก้าวหน้าและทักษะที่ตนเองพัฒนาได้อีกด้วย

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) โดยเชฟจากครัววันดี ในฐานะองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ลงพื้นที่ร่วมกับเทศบาลตำบลอัมพวา จัดประเมินร้านสตรีทฟู้ดจำนวนกว่า 200 ร้าน เพื่อยกระดับมาตรฐานให้พ่อค้า แม่ค้าตลาดน้ำอัมพวา

    30.09.2567
    1,171 View

    สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) โดยเชฟจากครัววันดี ในฐานะองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ลงพื้นที่ร่วมกับเทศบาลตำบลอัมพวา จัดประเมินร้านสตรีทฟู้ดจำนวนกว่า 200 ร้าน เพื่อยกระดับมาตรฐานให้พ่อค้า แม่ค้าตลาดน้ำอัมพวา หลังจากเกิดกรณีกระแสในโลกออนไลน์พ่อค้าขายลูกชิ้นทอดไม่แจ้งราคา วัตถุดิบเหมือนจะเสีย นายกฤต มีทวี รองนายกเทศมนตรีตำบลอัมพวา บอกว่าเป็นเรื่องที่ดีที่สถาบันมีการประเมินและให้การรับรองกับพ่อค้าแม่ค้าสตรีทฟู้ด เพราะจะช่วยส่งเสริมการปรุง การจัดเก็บวัตถุดิบอย่างมีมาตรฐาน ช่วยยกระดับให้ตลาดน้ำอัมพวาได้อีกทาง โดยเฉพาะทีมเชฟที่ลงพื้นที่ประเมินไม่เพียงแค่ตรวจสอบเท่านั้น แต่ช่วยให้คำแนะนำกับผู้ประกอบการที่สามารถนำไปปรับปรุงพัฒนาการประกอบอาหารที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวได้ด้วย นอกจากนี้ยังเป็นการจูงใจให้คนที่ทำดีให้ได้รับรางวัล เพราะการรับรองความเป็นมืออาชีพ มีประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ ก็เป็นเสมือนรางวัลให้กับพ่อค้าแม่ค้าในพื้นที่ และอยากให้ผู้ประกอบการร้านอาหารตลาดน้ำอัมพวารักษามาตรฐานนี้ไว้เพื่อชื่อเสียง ภาพลักษณ์ที่ดีที่จะออกสู่สายตานักท่องเที่ยวทั่วโลก

  • สคช. ร่วมเฟ้นหาสุดยอดเชฟฮาลาลระดับช้างเผือกชายแดนใต้ และร่วมมอบใบประกาศนียบัตรการันตีสู่ความเป็นมืออาชีพ หนุนซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย (ฮาลาล)

    27.09.2567
    1,375 View

    สคช. ร่วมเฟ้นหาสุดยอดเชฟฮาลาลระดับช้างเผือกชายแดนใต้ และร่วมมอบใบประกาศนียบัตรการันตีสู่ความเป็นมืออาชีพ หนุนซอฟต์พาวเวอร์อาหารไทย (ฮาลาล) นายพิริยพงศ์ แจ้งเจนเวทย์ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนานวัตกรรมคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นผู้แทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมพิธีมอบใบประกาศนียบัตรผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรเชฟอาหารไทย (ฮาลาล) ระดับช้างเผือก ณ ห้องประชุมศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จำนวน 2 รุ่น รวม 40 คน โดยมีประกาศนียบัตรดังกล่าวเป็นการการรันตีความเป็นมืออาชีพด้านการเป็นเชฟอาหารไทยจาก 3 หน่วยงาน ได้แก่ ประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ อาชีพผู้ประกอบอาหารฮาลาล ระดับ 4 จาก สคช. , ประกาศนียบัตรจาก ศอ.บต. ร่วมกับสถาบันการอาหารไทย และประกาศนียบัตรจากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน โดยมี พันตำรวจโทวรรณพงษ์ คชรักษ์ เลขาธิการ ศอ.บต. เป็นประธานกล่าวเปิดงานและร่วมมอบใบประกาศนียบัตรของทั้ง 3 หน่วยงาน นอกจากนี้ ยังมีนายณัฐพงษ์ ธีรนันทพิชิต อาจารย์ใหญ่สถาบันการอาหารไทย พร้อมผู้แทนจากสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน, มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา, สถาบันอาหารฮาลาล,มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เข้าร่วมเป็นสักขีพยานและแสดงความยินดีกับผู้สำเร็จหลักสูตรดังกล่าว โครงการนี้ไม่เพียงแต่พัฒนาทักษะอาชีพ แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับคนในพื้นที่ ทั้งยังหวังว่าเชฟรุ่นใหม่เหล่านี้จะเป็นทูตวัฒนธรรมอาหารไทยฮาลาลสู่เวทีโลก การริเริ่มครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้อาหารเป็นสื่อกลางในการสร้างความเข้าใจและความร่วมมือระหว่างวัฒนธรรม ทั้งนี้ ในรุ่นที่ 3 ของหลักสูตรเชฟอาหารไทย (ฮาลาล) ระดับช้างเผือก สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) จะเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินโครงการภายใต้แผนงานบูรณาการการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการยกระดับบุคลากรสู่อาชีพเชฟฮาลาลอาหารไทยชายแดนใต้ด้วยคุณวุฒิวิชาชีพอีกด้วย

  • สคช.ประชุมร่วมกับสถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง 4 วางแนวทางการจัดทำหลักสูตรการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ หวังให้นักศึกษาได้รับคุณวุฒิวิชาชีพและหนังสือรับรองสมรรถนะติดตัวก่อนเข้าสู่การประกอบอาชีพ

    27.09.2567
    1,391 View

    สคช.ประชุมร่วมกับสถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง 4 วางแนวทางการจัดทำหลักสูตรการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ หวังให้นักศึกษาได้รับคุณวุฒิวิชาชีพและหนังสือรับรองสมรรถนะติดตัวก่อนเข้าสู่การประกอบอาชีพ ณ ห้องไดมอนด์ 1 โรงแรม อวานี รัชดา กรุงเทพฯ ดร.ศิริพรรณ ชุมนุม นายกสภาสถาบันการอาชีวศึกษากรุงเทพมหานคร ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นประธานเปิดการประชุม โดยมีนายนิธิวัชร์ ศิริปริยพงศ์ รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการประชุมร่วมกับสถาบันการอาชีวศึกษาภาคกลาง 4 นำโดย ดร.อินดา แตงอ่อน ผู้อำนวยการสถาบัน พร้อมคณะ การประชุมครั้งนี้เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และร่วมกันวางแนวทางการพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ของสถาบันการอาชีวศึกษาด้วยมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมทั้งมีการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาหลักสูตรการเรียนรู้ให้ความสอดคล้องตามมาตรฐานอาชีพ ตลอดจนแนวทางการได้รับประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ และหนังสือรับรองสมรรถนะของผู้เรียน  นอกจากนี้ ยังได้มีการแนะนำการใช้งานระบบบริการต่างๆ ภายใต้แพลตฟอร์มอัจฉริยะ E-Workforce Ecosystem Platform (EWE) ให้กับอาจารย์ในสังกัดสถาบันการอาชีวศึกษากรุงเทพมหานคร เพื่อนำไปถ่ายทอดและประชาสัมพันธ์ให้นักเรียน นักศึกษาของแต่ละวิทยาลัยเข้าไปใช้งาน ให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาตนเองต่อไป

  • ดร.ณฐา จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เข้าร่วมพิธีเปิดงาน THAI SME-GP DAY 2024 มหกรรมรวมสินค้าและบริการจาก SME ที่มุ่งขยายโอกาสให้ SME เข้าถึงตลาดภาครัฐและเอกชน

    26.09.2567
    1,326 View

    ดร.ณฐา จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เข้าร่วมพิธีเปิดงาน THAI SME-GP DAY 2024 มหกรรมรวมสินค้าและบริการจาก SME ที่มุ่งขยายโอกาสให้ SME เข้าถึงตลาดภาครัฐและเอกชน โดยมีนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะประธานกรรมการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เป็นประธานในพิธีเปิด โดยมี ดร.ปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าววัตถุประสงค์ของการจัดงาน ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อาคาร 5 นายประเสริฐ กล่าวว่า ตลาดการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐมีมูลค่ากว่า 1.3-1.5 ล้านล้านบาทต่อปี ซึ่งเปิดโอกาสให้ SME ไทยได้มีส่วนร่วมในการจัดหาสินค้าและบริการ รัฐบาลจึงให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและสนับสนุน SME ผ่านมาตรการต่าง ๆ เพื่อลดความยุ่งยากและเพิ่มสิทธิประโยชน์ในการจัดซื้อจัดจ้างให้กับผู้ประกอบการ SME ด้วย งาน THAI SME-GP DAY 2024 ยังมีการจัดโซนแสดงสินค้าและบริการที่หลากหลาย การบรรยายเกี่ยวกับตลาดภาครัฐการเตรียมพร้อมและการเสนอราคากับหน่วยงานภาครัฐ รวมถึงการเสวนาเพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐ และการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้หน่วยงานภาครัฐ และสถาบันการเงินที่สนับสนุนการกขยายโอกาส SME สู่ตลาดภาครัฐ ซึ่งงานนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพ SME ไทยให้เข้มแข็งและเติบโตต่อไปอย่างมั่นคง พร้อมกับเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศต่อไป

  • สคช.เชิญชวนนักทรัพยากรบุคคลองค์กรต่างๆ ร่วมนำแพลตฟอร์มอัจฉริยะด้านกำลังคน EWE Platform เสริมประสิทธิภาพ และเพิ่มช่องทางพัฒนาบุคลากรภายในองค์กร มุ่งสู่การเป็น Digital HR ในงาน Digital HR Forum2024

    26.09.2567
    1,297 View

    สคช.เชิญชวนนักทรัพยากรบุคคลองค์กรต่างๆ ร่วมนำแพลตฟอร์มอัจฉริยะด้านกำลังคน EWE Platform เสริมประสิทธิภาพ และเพิ่มช่องทางพัฒนาบุคลากรภายในองค์กร มุ่งสู่การเป็น Digital HR ในงาน Digital HR Forum2024 โดยงาน Digital HR Forum2024 เป็น 1 ใน 4 งาน ที่จัดขึ้น ในโครงการ September Series 2024 หัวข้อ “How Thailand Continues to Foster Its Digital Economy and Society” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-26 กันยายน 2567 ณ ห้อง Mayfair Ballroom โรงแรมเดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ โดยมีศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวเปิดงาน และปาฐกถาพิเศษ พร้อมระบุด้วยว่าเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ให้ก้าวทันและสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของ Digital Economy เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม สร้างความตระหนักและเพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนทัศนคติว่าในโลกการทำงานและการพัฒนาบุคลากรยุคใหม่ ดิจิทัลเทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทเรียกว่าปฏิวัติทั้ง workplace และ workforce อีกทั้งมุ่งหวังที่จะให้เวทีนี้ได้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการประยุกตฺใช้ดิจิทัลเทคโนโลยีร่วมกัน ทั้งหน่วยานภาครัฐและเอกชน สมาคมสมาพันธ์ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภาคการศึกษา ขณะเดียวกันปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ได้กล่าวด้วยว่ากระทรวงดีอีจะร่วมกับสคช. ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บเครดิตแบงค์ และสนับสนุนการสร้างแพลตฟอร์มที่จะตอบโจทย์ Learn to Earn และการจัดทำฐานข้อมูลกำลังคนเพื่อนำมาพัฒนาและใช้ประโยชน์ในการพัฒนากำลังแรงงานของประเทศต่อไป ทางด้าน นายนิธิวัชร์ ศิริปริยพงศ์ รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ได้ร่วมขึ้นเวทีในการเชิญชวนนักทรัพยากรบุคคลจากหน่วยงานต่างๆ ภายใต้หัวข้อ “Unlock HR to Drive Business Performance in Any Context” โดยได้กล่าวเชิญชวนและแนะนำเครื่องมือซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอัจฉริยะที่ สคช.จัดทำขึ้นในชื่อ E-Workforce Ecosystem Platform ซึ่งมี 6 ระบบ ประกอบด้วย 1.ระบบ E-portfolio เป็นการจัดเก็บข้อมูลของบุคคลอย่างเป็นระบบ อาทิ ข้อมูลประวัติการศึกษา การอบรม ประสบการณ์ทำงาน ทักษะที่บุคคลมีไว้ในที่เดียว 2.ระบบ Learning and Career Guidance (LCG) มีแบบประเมินทักษะ ความถนัด ของตนเองว่าสามารถเลือกอาชีพ หรือทำงานตามความถนัดได้อย่างไร 3.ระบบ E-Coupon เป็นระบบสนับสนุนค่าใช้จ่ายสำหรับการ Up-skill Re-skill New-skill หรือต้องการพัฒนาตนเองสู่การมีอาชีพที่ 2 และ 3 ต่อไป 4. ระบบ Competency Credit Bank เป็นระบบการสะสมประสบการณ์เพื่อเชื่อมโยงภาคการศึกษา 5. ระบบ Job Matching ระหว่างคนหางานและผู้ประกอบการมีประสิทธิภาพ เกิดการจ้างงานทุกระดับอย่างเป็นธรรม ผู้ประกอบการได้แรงงานมีคุณภาพ มีทักษะฝีมือตรงตามความต้องการ และ 6. ระบบบริการข้อมูลด้านกำลังคน ที่จะสามารถเห็นภาพรวมกำลังแรงงานของทั้งประเทศ เพื่อการบริการจัดการได้อย่างเป็นรูปธรรม จะเห็นได้ว่า E-Workforce Ecosystem Platform เป็นระบบที่ช่วยในการสร้างโปรไฟล์ เพื่อรองรับการเพิ่มทักษะ การมีงานทำ การศึกษาต่อได้ และยังเป็นกลไกในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องสู่การเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong learning)

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ จับมือ อีอีซี ร่วมเดินหน้าพัฒนากำลังคนด้วย EWE Platform

    24.09.2567
    961 View

    สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ จับมือ อีอีซี ร่วมเดินหน้าพัฒนากำลังคนด้วย EWE Platform นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมด้วย ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก จรดปากกาลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) และสำนักงานนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพื่อส่งเสริมและพัฒนากำลังคนผ่านระบบ E-Workforce Ecosystem ดร.จุฬา กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า EWE Platform ไม่เพียงช่วยให้แรงงานสามารถพัฒนาทักษะตนเองตามมาตรฐานอาชีพเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างโอกาสให้คนในชุมชนได้ Upskill และ Reskill ทั้งในภาคอุตสาหกรรมและในหลากหลายสาขาอาชีพ โดยเฉพาะการพัฒนาในพื้นที่ชุมชนของเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งสามารถช่วยผลักดันการนำ EWE Platform ไปใช้พัฒนากำลังคนกลุ่มแรงงานท้องถิ่น ผ่านการลงทะเบียน E-Portfolio เพื่อเชื่อมโยงคนทำงานกับสถานประกอบการ โดยผู้ที่ได้รับคุณวุฒิวิชาชีพจากการประเมินอย่างเป็นระบบจะสามารถเพิ่มอำนาจต่อรองค่าตอบแทนและยกระดับทักษะให้ตรงตามความต้องการของตลาด นางสาวจุลลดา เสริมว่า EWE Platform มีเป้าหมายที่จะเข้าไปรองรับผู้ใช้งานในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้งนักเรียน นักศึกษา และผู้ประกอบอาชีพอิสระ พร้อมทั้งสนับสนุนผู้ที่หลุดออกจากระบบการศึกษาให้กลับเข้าสู่ระบบ รวมถึงการมุ่งมั่นในการสร้างมาตรฐานอาชีพที่ทันสมัยและสอดคล้องกับแนวโน้มอาชีพใหม่ๆ เช่น Green Business และการใช้ประโยชน์จาก Carbon Credit เพื่อให้กำลังคนในพื้นที่สามารถปรับตัวและพัฒนาทักษะได้ตลอดชีวิต ทั้งนี้ EWE Platform จะช่วยสร้างความมั่นใจให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกแรงงานที่มีทักษะตรงความต้องการ ส่งผลให้การลงทุนในพื้นที่ EEC เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ การลงนาม MOU นี้เป็นอีกก้าวสำคัญในการพัฒนาศักยภาพแรงงานของประเทศไทย ให้มีคุณวุฒิวิชาชีพที่ได้รับการยอมรับสู่มาตรฐานระดับสากล ผ่านการใช้งานแพลตฟอร์มอัจฉริยะที่เน้นการเรียนรู้ตลอดชีวิตและพัฒนาทักษะการทำงานให้กับแรงงานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพิ่มความสามารถในการแข่งขันทั้งในและนอกประเทศในอนาคต

  • นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิชาชีพ เข้าร่วมในการประชุมยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ Inaugural Strategic Economic Dialogue ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านการค้าครั้งแรกระหว่างไทยและออสเตรเลีย

    23.09.2567
    921 View

    นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิชาชีพ เข้าร่วมในการประชุมยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจ Inaugural Strategic Economic Dialogue ซึ่งไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมระดับรัฐมนตรีด้านการค้าครั้งแรกระหว่างไทยและออสเตรเลีย นำโดยนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายทิม แอร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีด้านการค้าเครือรัฐออสเตรเลีย ซึ่งจัดขึ้น ณ โรงแรมสยาม เคมปินสกี้ กรุงเทพ ในการหารือระหว่างไทยและออสเตรเลีย จะมีประเด็นด้านการค้าการลงทุน พร้อมทั้งต่อยอดและเสริมสร้างโอกาสความร่วมมือในการพัฒนาเศรษฐกิจการค้าการลงทุน เสริมแกร่งผู้ประกอบการ รวมถึงจะได้มีการแลกเปลี่ยนแนวคิดเกี่ยวกับความร่วมมือในการพัฒนาพลังงานสะอาด เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเน้นถึงการพัฒนากรอบ Micro-credential Framework ในสาขาสำคัญ เช่น cyber security และการท่องเที่ยว อีกทั้งยังมีการพูดคุยเรื่อง mutual recognition หรือการรับรองคุณวุฒิการศึกษาและคุณวุฒิวิชาชีพร่วมกัน โดยเฉพาะในสาขาช่างเชื่อม ผู้ประกอบอาหารไทย ผู้ดูแลผู้สูงอายุ และนวดไทย เพื่อส่งเสริมมาตรฐานการทำงานและความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล