ข่าวประชาสัมพันธ์

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) จัดสัมมนา “Professional in Rail Industry มืออาชีพด้านระบบราง”

    23.01.2563
    611 View

    เทคโนโลยี กับคนต้องอยู่ด้วยกันได้ “กอบศักดิ์” ชี้ ประเทศจำเป็นต้องพัฒนากำลังคนในอาชีพ ให้เป็นมืออาชีพ ทำให้ได้มากกว่าหน้าที่ที่มี เพราะอนาคตแม้เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาท แต่ก็ยังต้องพึ่งพาคนที่มีคุณภาพศักยภาพ เป็นเหตุให้คนและเทคโนโลยีต้องอยู่ร่วมกันให้ได้ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เป็นประธานในพิธีสัมมนา “Professional in Rail Industry มืออาชีพด้านระบบราง” ณ ห้องบอลรูม โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ กรุงเทพมหานคร โดยมี นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ(องค์การมหาชน), ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ, นางสาววรชนาธิป จันทนู, นางสาวจุลลดา มีจุล รอง ผอ.สคช., นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการบริษัท และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด, ผศ.ดร.ชวลิต มณีศรี ผอ.ศูนย์การศึกษาต่อเนื่องทางวิศวกรรม คณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.ศรีปทุม, นายถิรเดช มงคลศุภวาร หัวหน้าสถานศึกษาโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ และนายศุภฤกษ์ สุดยอดประเสริฐ หัวหน้ากลุ่มมาตรฐานโครงสร้างพื้นฐาน กองมาตรฐานความปลอดภัยและบำรุงทาง กรมการขนส่งทางราง กระทรวงคมนาคม ร่วมในงาน พร้อมได้มอบประกาศนียบัตรให้กับคนในอาชีพที่ผ่านการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ 114 คน นายกอบศักดิ์ กล่าวระหว่างการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “พัฒนากำลังคน เพื่อผลิตภาพของประเทศ” ว่าระบบรางของไทยกำลังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นับเป็นสัญญาณที่ดีที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ จัดทำมาตรฐานอาชีพฯ เพื่อพัฒนากำลังคนให้เป็นคนคุณภาพรองรับอุตสาหกรรมรางที่เติบโตขึ้น เพราะในอนาคตกำลังคนด้านระบบราง ยังเป็นที่ต้องการนับหมื่นคน ขณะที่อีกหลายอาชีพมีความเสี่ยงที่จะตกงาน โดยเฉพาะคนในโรงงานที่คาดการณ์ว่าภายใน 5-10 ปี จะสุ่มเสี่ยงตกงานมากขึ้นจากระบบแขนกล แต่สุดท้ายกำลังคนจะอยู่ร่วมกับเทคโนโลยียุคใหม่ได้หากมีการพัฒนาเรียนรู้ เพราะเทคโนโลยียังคงต้องใช้กำลังคนที่มีศักยภาพในการควบคุม นายกอบศักดิ์ย้ำว่า เมื่อระบบแขนกลที่เข้ามามีบทบาทในทุกอุตสาหกรรมในอนาคตถูกพัฒนามาจากคน เมื่อการพัฒนาคนทั้งการ upskill และ reskill พัฒนาคนที่ไม่มี skill ให้เป็นคนที่มีทักษะ มีมาตรฐานสูง ก็จะทำให้คนมีมูลค่าเป็นที่ต้องการตัวในอุตสาหกรรม นับเป็นหน้าที่สำคัญที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เข้ามามีบทบาทในการพัฒนา และรับรองคนด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ด้านนายนคร ระบุว่าสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมสนับสนุนการปฏิรูปประเทศตามยุทธศาสตร์ชาติ มุ่งเน้นการแก้ปัญหาพื้นฐานเร่งด่วนด้านคมนาคมขนส่ง โดยส่งเสริมให้กำลังคนในอาชีพเห็นความสำคัญของระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ซึ่งจะทำให้เติบโตในสายงานที่กว้างขึ้น เป็นบุคคลที่ต้องการของผู้ประกอบการ เป็นที่ยอมรับในระดับสากล จากแผนการลงทุนของประเทศในด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบโลจิสติกส์ ในส่วนระบบราง คาดการณ์ว่าปี พ.ศ.2565 บุคลากรในตำแหน่งวิศวกร และช่างเทคนิคเพื่อปฏิบัติงานในส่วนการเดินรถและซ่อมบำรุงจะเป็นที่ต้องการไม่น้อยกว่า 7,280 คน ขณะที่ปัจจุบันภาคการศึกษามีแผนผลิตวิศวกรและช่างเทคนิคในสาขานี้เพียง 5,670 คน จึงมีความจำเป็นที่ สคช. จะต้องเตรียมพร้อมพัฒนา และฝึกอบรมกำลังคนในอาชีพทดแทนอัตรากำลังคนที่ยังขาดแคลน โดยเฉพาะสาขาวิชชีพรถไฟความเร็วสูงและระบบรางเพื่อรองรับการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งทางรางที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ระหว่างการเสวนา “Professional in Rail Industry มืออาชีพด้านระบบราง” นายสุเทพ พันธุ์เพ็ง กรรมการบริษัท และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัทรถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด บอกว่า เป็นเรื่องที่ดีที่รัฐบาลให้ความสำคัญกับระบบราง เพราะเป็นอีกอาชีพที่มีความสำคัญในอนาคต เพราะระบบรางจะเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่จะพลิกอนาคตของประเทศ สามารถแก้ปัญหาได้หลายอย่าง โดยเฉพาะด้านการจราจร ซึ่งจะส่งผลให้ปัญหาสิ่งแวดล้อมลดลงด้วย #มืออาชีพ #มอช #ระบบราง #สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน)ร่วมแถลงข่าวสรุปผลการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพไฟฟ้า

    21.01.2563
    611 View

    ดินเครื่องเต็มสูบ กับ 7 อาชีพด้านไฟฟ้า เตรียมเปิดประเมิน 7 อาชีพด้านไฟฟ้า หลังคลอดมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพไฟฟ้า ที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมกับสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้งผู้เชี่ยวชาญ องค์กรต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในอาชีพได้จัดทำขึ้น เพื่อพัฒนาความเจริญก้าวหน้ากำลังคน รองรับความต้องการกำลังคนในอุตสาหกรรมการไฟฟ้า นายนิธิวัชร์ ศิริปริยพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารคุณวุฒิวิชาชีพ 3 การจัดทำมาตรฐานอาชีพนี้ฯ เป็นไปเพื่อตอบสนองความต้องการของภาคธุรกิจและอุตสาหกรรม ผ่านกระบวนการรับรองคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อให้บุคคลได้รับการยอมรับในความรู้ทักษะ ตลอดจนความสามารถในการประกอบอาชีพ และได้รับคุณวุฒิวิชาชีพ ที่สอดคล้องกับสมรรถนะประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถในการใช้ระบบคุณวุฒิวิชาชีพมาพัฒนาความเจริญความก้าวหน้าในสายอาชีพของตัวเอง โดยคุณวุฒิวิชาชีพนี้จะเป็นประโยชน์โดยตรงต่อกำลังคนของประเทศ และสามารถนำไปเทียบเคียง เชื่อมโยงกับระบบคุณวุฒิและการรับรองอื่นๆ ทั้งในและต่างประเทศได้ ด้านนายณรัฐ รุจิรัตน์ ผู้อำนวยการสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ยอมรับว่าไทยได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐฯ จนทำให้การส่งออกสินค้าไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ในปี 2562 ลดลง แต่คาดการณ์ว่าปีนี้จะเติบโตมากขึ้น กำลังคนที่ได้มาตรฐานเป็นมืออาชีพจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกำลังคนที่ได้การรับรองมาตรฐานอาชีพจากหน่วยงานในภาครัฐ ซึ่งการจัดทำมาตรฐานใน 7 อาชีพด้านการไฟฟ้า ที่ประกอบไปด้วย อาชีพนักพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์อัจฉริยะ SMART PRODUCT อาชีพนักพัฒนากระบวนการผลิตชั้นสูง (SMART FACTORY) อาชีพนักควบคุมและป้องกันไฟฟ้าสถิตและสิ่งปนเปื้อน อาชีพนักพัฒนาระบบคุณภาพในกระบวนการผลิตอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ อาชีพนักทดสอบผลิตภัณฑ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ในอุตสาหกรรม อาชีพนักทดสอบหม้อแปลงไฟฟ้ากำลัง และช่างซ่อมสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต เพื่อสร้างกำลังคนมืออาชีพป้อนสู่อุตสาหกรรมนี้ #มอช #มืออาชีพ #สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ #ไฟฟ้า

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ(องค์การมหาชน) มอบใบประกาศนียบัตรมาตรฐานสมรรถนะการใช้ดิจิทัลให้นักเรียนเตรียมทหาร

    20.01.2563
    769 View

    เตรียมทหารตบเท้า ก้าวเข้าสู่มืออาชีพ DL นักเรียนเตรียมทหาร 587 นาย ตบเท้ารับประกาศนียบัตรมาตรฐานสมรรถนะการใช้ดิจิทัล (Digital Literacy) กับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) ร่วมมอบประกาศนียบัตรมาตรฐานสมรรถนะการใช้ดิจิทัล (Digital Literacy) หลังโรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ กองบัญชาการกองทัพไทย โดยพลตรี กนกพงษ์ จันทร์นวล ผู้บัญชาการโรงเรียนเตรียมทหาร จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรให้กับนักเรียนเตรียมทหาร 587 นาย มีหม่อมหลวงพัชรภากรเทวกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นาย นายนิธิวัชร์ ศิริปริยพงศ์ ผู้อำนวยการ สำนัก บค.3 (สคช.) และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมมอบประกาศนียบัตรครั้งนี้ด้วย พลตรี กนกพงษ์ ย้ำว่าการใช้ดิจิทัลเป็นเรื่องสำคัญ และเป็นเรื่องที่ดีที่ สคช. จัดทำมาตรฐานอาชีพนี้ เพราะนักเรียนเตรียมทหารจะเป็นกำลังสำคัญของกองทัพที่จะนำมาตรฐานการใช้ดิจิทัล ไปใช้ได้ในอนาคต เพราะทุกอย่างล้วนมีเรื่องเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังเป็นการสนับสนุนการดำเนินการ ของรัฐบาลตามแนวทางการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลของข้าราชการและบุคลากรภาครัฐให้มีความพร้อมต่อการเปลี่ยนผ่าน ทางดิจิทัล เพื่อร่วมเร่งขับเคลื่อนไปสู่ดิจิทัลไทยแลนด์ ซึ่งจะทำให้นักเรียนเตรียมทหารปฏิบัติหน้าที่ด้านความมั่นคงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นตท.ศิวกร ควรประดิษฐ์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ยอมรับว่ารู้สึกภูมิใจที่ผ่านการประเมิน และได้รับประกาศนียบัตรในครั้งนี้ เพราะการประเมินทำให้เพิ่มทักษะ ที่สามารถนำไปต่อยอดในการเรียน ในชีวิตประจำวัน รวมทั้งสามารถต่อยอดการทำงานในอาชีพทหารได้ในอนาคต เช่นกันกับ นตท.ฐิติพงศ์ สอนวงษ์ นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ที่ภูมิใจกับการผ่านการประเมินการใช้ดิจิทัล และได้ก้าวเข้าสู่การเป็นมืออาชีพในด้านการใช้ดิจิทัลกับ สคช. โดยเฉพาะการประเมินที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้เทคนิคการใช้ระบบดิจิทัลหลายอย่างไม่ว่าจะเป็น Microsoft Word และ Excell ที่มีเทคนิคเชิงลึกหลายอย่างที่เขาไม่เคยรู้มาก่อน จึงทำให้เขาได้เรียนรู้และทำเป็น ทั้งยังสามารถสอนบุคคลอื่นให้เรียนรู้ได้ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้โรงเรียนเตรียมทหาร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ได้จัดฝึกอบรมพัฒนาสมรรถนะด้านดิจิทัล สร้างทักษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ให้กับนักเรียนเตรียมทหาร จำนวน 788 นาย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาทักษะด้านความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดิจิทัลรวมทั้งสร้างความตระหนักรู้ปรับตัวให้รู้เท่าทันกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งยังเป็นการยกระดับขีดความสามารถด้านดิจิทัลของนักเรียน- เตรียมทหารให้ได้ตามมาตรฐานสากล และรองรับการเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล (Digital- Transformation) ไปสู่โรงเรียนเตรียมทหารดิจิทัลที่สมาร์ตอย่างยั่งยืนได้ในอนาคต

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ(องค์การมหาชน) ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวโครงการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพพลังงานและพลังงานทดแทน

    17.01.2563
    740 View

    ไฟฟ้าคือชีวิต ต้องผลิต ต้องใช้ อย่างมืออาชีพ ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ รักษาการผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวโครงการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพพลังงานและพลังงานทดแทน สาขางานระบบผลิตไฟฟ้า ที่ รร.ทวินทาวเวอร์ โดยย้ำว่า ภารกิจในการพัฒนากำลังคนตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ, แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก และแผนพลังงานหลักของประเทศ เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ทางด้านพลังงานของชาติ การทำให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ได้ ในส่วนของอาชีวศึกษาจำเป็นต้องเตรียมบุคลากรเพื่อเข้าสู่งานระบบผลิตไฟฟ้า ส่วนของผู้ประกอบการโรงไฟฟ้าก็ต้องมีการพัฒนาตนเองให้เข้าถึงเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ทางด้านการผลิตไฟฟ้าด้วย ด้าน ดร. สุุทธิชัย จูประเสริฐ รองผู้ว่าการบริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) บอกว่า กฟผ.เห็นประโยชน์ของการพัฒนากำลังคน และได้ส่งผู้เชี่ยวชาญเข้ามาร่วมจัดทำมาตรฐานฯ ในทุกภาคส่วนของการทำงาน ทั้งคณะทำงาน และคณะรับรอง เพื่อขับเคลื่อนมาตรฐานฯ ไปสู่ภาคการใช้งานได้จริง ซึ่งใน กฟผ.เองก็ได้เตรียมบุคลากรและสถานที่พร้อมขึ้นเป็นองค์กรรับรองฯ กับ สคช. ทันทีที่ได้มาตรฐาน ก็สามารถเข้าสู่ระบบการประเมินสมรรถนะคนได้ทันที โดยเฉพาะรองรับผู้ปฏิบัติงานของ กฟผ.ที่จะทำงานในอาเซียนด้วย เนื่องจากปัจจุบันอาเซียนมีข้อตกลงร่วมกันในส่วนของ Grid Connectivity ซึ่งมาตรฐานอาชีพงานระบบผลิตไฟฟ้าจะมาช่วยพัฒนาบุคลากรทางด้านระบบผลิตไฟฟ้า และการเคลื่อนย้ายบุคลาการด้านนี้ในอาเซียนด้วย ขณะที่ รศ.ดร.กู๊สกานา กูบาฮา คณบดีคณะพลังงานสิ่งแวดล้อมและวัสดุ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ในฐานะที่ปรึกษาโครงการ ระบุว่าการจัดทำมาตรฐานฯ เวลานี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมการ เนื่องจากบุคลากรที่ปฏิบัติงานในโรงไฟฟ้าทั้งในโรงไฟฟ้าของ กฟผ. โรงไฟฟ้าเอกชน และโรงไฟฟ้าในอาเซียน ที่ประเทศไทยเข้าไปลงทุนมีจำนวนมาก จึงนำร่องในส่วนอาชีพที่เกี่ยวข้องกับผู้ปฏิบัติงานเดินเครื่องระบบผลิตไฟฟ้า (Operation) และผู้ปฏิบัติงานซ่อมบำรุงรักษาระบบผลิตไฟฟ้า (Maintenance) ในโรงไฟฟ้า 2 ประเภทคือ Thermal Power Plant และ Combined Cycle Power Plant ก่อน #มืออาชีพ #มอช #สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ #กฟผ #ไฟฟ้า

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เปิดตัวโครงการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพการจัดประชุมและนิทรรศการ

    13.01.2563
    685 View

    เตรียมคลอด “มาตรฐานอาชีพจัดประชุมและนิทรรศการ (MICE)” ครั้งแรกกับการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพการจัดประชุม และนิทรรศการ รองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรม MICE ที่เติบโตต่อเนื่องสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจปีละกว่าแสนล้านบาท นางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) ร่วมเป็นประธานเปิดตัวโครงการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพการจัดประชุมและนิทรรศการ หรือที่รู้จักกันว่า (MICE) ซึ่ง สคช. ได้ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมและจัดการประชุมนิทรรศการ (TCEB) มหาวิทยาลัยบูรพา และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ และเอกชน ร่วมกันจัดทำมาตรฐานฯ อาชีพการจัดประชุมและนิทรรศการขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย นางสาวจุลลดา ย้ำว่า การจัดทำมาตรฐานอาชีพฯ การจัดประชุมและนิทรรศการ ก็เพื่อมุ่งหวังพัฒนา และยกระดับคนในอาชีพให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ประกอบการให้เป็นไปตามหลักสากล แม้อุตสาหกรรม MICE จะก้าวเข้าสู่มาตรฐานอาเซียนแล้วก็ตาม แต่เพื่อการยอมรับของทั่วโลก และเพื่อเป็นการยกระดับกำลังคนในอุตสากรรมฯ จึงมีความจำเป็นในการจัดทำมาตรฐานอาชีพขึ้น เบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาราว 1 ปี ก่อนที่มาตรฐานนี้จะคลอดออกมาพร้อมประกาศใช้ “อุตสาหกรรมไมซ์นับเป็นอุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ หากคนพัฒนาได้อีก มีมาตรฐานสามารถแข่งขันระดับสากลได้อีก ต่างชาติจะมีความเชื่อมั่นและเข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมไมซ์มากขึ้นด้วย ก็เท่ากับเป็นการสร้างการเติบโตให้เศรษฐกิจมวลรวมของประเทศด้วย” นางสาวจุลลดา กล่าว ด้านนางศุภวรรณ ตีระรัตน์ รองผู้อำนวยการ สายงานพัฒนาและนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ สสปน. บอกว่า อุตสาหกรรมไมซ์ เป็นอุตสาหกรรมที่สร้างเม็ดเงินให้ประเทศมากกว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี การเติบโตในอุตสาหกรรมนี้ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 10-12% ต่อปี ที่สำคัญปัจจุบันมีชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในอุตสาหกรรมนี้มากพอสมควร ดังนั้นการจัดทำมาตรฐานอาชีพอุตสาหกรรมไมซ์ จึงเป็นเรื่องที่สำคัญจำเป็น เพราะไม่เพียงจะสร้างความเสมอภาค ลดความเหลื่อมล้ำ ยังเป็นการสร้างมาตรฐานบุคลากรให้เท่ากันทั้งประเทศ เนื่องจากไมซ์เป็นอุตสาหกรรมบริการ จำเป็นต้องมีบุคลากรมืออาชีพที่สามารถแข่งขันได้ในระดับเวทีโลก ซึ่งปัจจุบันอุตสาหกรรมนี้ยังขาดแคลนบุคลากรอยู่จำนวนมาก จึงมั่นใจว่ามาตรฐานอาชีพการจัดประชุมและนิทรรศการจะยกระดับคนทั้งประเทศไปพร้อมกัน ที่สำคัญมีผู้ประกอบการที่เป็นเอกชนรอบุคลากรมืออาชีพที่ได้การรับรองจากหน่วยงานภาครัฐรออยู่ในอุตสาหกรรมไมซ์

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การใหาชน)บุกมอบป้าย “มืออาชีพ” ให้ถึงร้าน ตอกย้ำความสำคัญการเป็นมืออาชีพ

    13.01.2563
    599 View

    “มืออาชีพ” บุก “บ้านระจัน” ขนาดนักรบ “ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน” ยังออกปาก “ขอบน้ำใจ” หลัง สคช. บุกมอบป้าย “มืออาชีพ” ให้ถึงร้าน ตอกย้ำความสำคัญการเป็นมืออาชีพกับ สคช. ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) พร้อมนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการ สคช. และคณะ เดินทางมอบป้าย “มอช. มืออาชีพ” ให้ถึงมือชาวตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี หลังชาวบ้านระจันผ่านการประเมินได้ใบรับรองมืออาชีพผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถี (Street Food) แล้วกว่า 196 คน ดร.นพดล ย้ำว่าป้ายนี้จะเป็นเครื่องการันตีว่าชาวระจันที่ผ่านการประเมิน เป็นผู้ประกอบอาหารที่สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน ที่สำคัญเร็วๆ นี้จะเร่งผลักดันให้ชาวระจัน มีชื่ออยู่ในแอปพลิเคชันปักหมุดมืออาชีพ เพื่อให้ผู้บริโภคสามารถค้นหา เลือกชิม ช้อป ร้านมืออาชีพได้ทันทีเพียงแค่ก้าวผ่านประตูค่ายวัดโพธิ์เก้าต้น สู่ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน ที่มีร้านค้า ร้านอาหารมากกว่า 200 ร้าน ขณะเดียวกัน สคช. จะหามาตรการต่อยอดเพื่อให้ตลาดไทยย้อนยุคบ้านระจัน คงมาตรฐาน และเป็นตลาดที่ห้ามพลาดในระยะยาวต่อไป ด้านนางสาวกรรณิการ์ โพธิ์ยิ้ม ก๋วยเตี๋ยวกะลาโบราณบ้านระจัน ยอมรับว่าเมื่อผ่านประเมินฯ กับ สคช. แล้ว ส่วนตัวรู้สึกภูมิใจที่เป็นผู้ประกอบการที่มีมาตรฐาน ได้การรับรองจากหน่วยงานในภาครัฐ และเชื่อว่าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคเองก็ได้รับความเชื่อมั่น ว่าร้านของเธอสะอาด ประกอบอาหารจากมืออาชีพตัวจริง ซึ่งก็ช่วยเพิ่มยอดจำหน่ายให้กับร้านของเธอได้อีกด้วย เช่นกันกับนายรุ่งโรจน์ อภิมงคลศิริ นักรบบ้านระจันประจำร้านขนมครกใบเตย ออกปากขอบน้ำใจ สคช. ที่เดินทางมามอบป้าย “มอช. มืออาชีพ” ให้ถึงร้าน เพราะป้ายนี้จะเป็นทางเลือกสำคัญให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าเขาเป็นผู้ประกอบอาหารที่ได้มาตรฐานอย่างมืออาชีพ ได้การรับรองจากภาครัฐ ทำให้เพิ่มยอดขายให้กับร้านของเขามากขึ้นด้วย ขณะที่การสอบถามนักท่องเที่ยวที่มาตลาดไทย้อนยุคบ้านระจัน บอกว่าเป็นเรื่องที่ดีที่ภาครัฐเข้ามาทำการประเมินผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ เพราะผู้บริโภคเองก็จะได้ความเชื่อมั่น มั่นใจ และเลือกซื้อ เลือกรับประทาน ร้านที่สะอาด ได้มาตรฐาน ปลอดภัย โดยสังเกตเห็นง่ายๆ จากป้าย “มอช. มืออาชีพ” #มอช #มืออาชีพ #บ้านระจัน #ตลาดย้อนยุค #สตรีดฟู้ด

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ(องค์การมหาชน)ทำบุญขึ้นปีใหม่แล้วก้าวเข้าสู่ปีที่9

    10.01.2563
    561 View

    นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมคณะกรรมการสถาบันฯ คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พร้อมประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์เนื่องในโอกาสทำบุญปีใหม่ และการก้าวเข้าสู่ปีที่ 9 ของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ที่ทุกคนพร้อมจะทำงานเพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวไกล คนไทยเป็นมืออาชีพต่อไป #มอช #มืออาชีพ #ก้าวสู่ปีที่9 #สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ(องค์การมหาชน) ร่วมแสดงความยินดีกับเครือ มติชน เนื่องในโอกาสครบรอบ 43 ปี

    08.01.2563
    520 View

    นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เป็นตัวแทนสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมแสดงความยินดีกับเครือ มติชน เนื่องในโอกาสครบรอบ 43 ปี มติชน วันที่ 9 มกราคม 2563 ซึ่งตัวแทนในเครือมติชน เองมีความยินดีและพร้อมให้การสนับสนุน เผยแพร่ภารกิจของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพด้วยเช่นกัน

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ(องค์การมหาชน) ร่วมกับ สคช. ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ดึงผู้เชี่ยวชาญในอาชีพร่วมกำหนดมาตรฐานอาชีพช่างวัดสายตาประกอบแว่นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย

    06.01.2563
    777 View

    เพราะดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ จะวัดสายตาเลยต้องใช้ "มืออาชีพ" เปิดตัวอย่างเป็นทางการกับมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ อาชีพช่างวัดสายตาประกอบแว่น หลัง สคช. ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ดึงผู้เชี่ยวชาญในอาชีพร่วมกำหนดมาตรฐานอาชีพช่างวัดสายตาประกอบแว่นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) ร่วมในการแถลงเปิดตัวโครงการจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพบริการสุขภาพ อาชีพช่างวัดสายตาประกอบแว่น ซึ่งเป็นครั้งแรกของไทยในการจัดทำมาตรฐานอาชีพนี้ หลังข้อมูลงานวิจัยทางจักษุสาธารณสุข พบว่ามีแนวโน้มที่คนไทยจะเผชิญปัญหาด้านสายตามากขึ้น เนื่องจากกำลังเข้าสู่สังคมสูงวัย ที่สำคัญคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีประชาชนที่ต้องได้รับการดูแลทางด้านสายตาและสุขอนามัยของระบบการมองเห็นไม่น้อยกว่า 20 ล้านคน โดยเฉพาะในกลุ่มคนอายุ 40 ปีขึ้นไปที่จำเป็นต้องได้รับการดูแลแก้ไขปัญหาสายตาอย่างถูกต้องและมีคุณภาพ ดังนั้นการตรวจวัดสายตาประกอบแว่นจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อที่ผู้บริโภคจะสามารถใช้บริการได้อย่างมีคุณภาพมาตรฐาน ขณะที่ สคช. กำลังพัฒนาแอปพลิเคชั่น “ปักหมุดมืออาชีพ” ก็จะยิ่งเป็นการเสริมศักยภาพด้านการค้นหาเพื่อเข้าใช้บริการกับช่างมืออาชีพ รวมทั้งผู้ประกอบการเองก็สามารถค้นหาช่างตรวจวัดสายตาที่ได้การรับรองมาตรฐานอาชีพเป็นที่ยอมรับทั้งในประเทศและระดับสากลเข้าร่วมงานได้ โดยมาตรฐานวิชาชีพนี้ได้ผ่านการวิเคราะห์ วิจัยประมวลผล จากผู้เชี่ยวชาญในด้านการตรวจวัดสายตาโดยเฉพาะ ทำให้อนาคตไม่เพียงช่างแต่ละคนจะทำได้ ทำเป็น แต่ยังเป็นสุดยอดในอาชีพของตัวเองอีกด้วย นายวัลลภ สุวรรณดี อธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต ขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้ความสำคัญกับอาชีพช่างวัดสายตาประกอบแว่น เพราะเป็นอาชีพที่มีผลโดยตรงกับสุขภาพการมองเห็นของคน ขณะเดียวกันยอมรับว่าในอดีตที่ผ่านมา เคยเกิดข้อสงสัยเช่นกันว่า ในการตัดแว่นแต่ละครั้งเรารับการตรวจวัดสายตาจากใคร ได้มาตรฐานจริงหรือไม่ แต่การจัดทำมาตรฐานอาชีพฯ ช่างตรวจวัดสายตาในครั้งนี้จะช่วยการันตีให้กับคนในอาชีพ และผู้บริโภคได้ว่าสามารถเลือกใช้บริการกับผู้ที่ผ่านการประเมินสมรรถนะ ได้การรับรองจาก สคช. เพราะช่างคนนั้นเป็นผู้ที่มีคุณภาพมาตรฐานในอาชีพจริงๆ #ที่นี่มืออาชีพ #สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ #วัดสายตา

  • อัญมณีแท้ แค่เครื่องมือไม่พอ ต้องอาศัยคนมืออาชีพ!!

    25.12.2562
    537 View

    อัญมณีแท้ แค่เครื่องมือไม่พอ ต้องอาศัยคนมืออาชีพ!! สคช. ประเดิมมาตรฐานวิชาชีพอัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่า หวังยกระดับคนในอาชีพ และระบบการตรวจสอบอัญมณีไทยที่ต้องทำงานคู่กันให้ได้อย่างมืออาชีพ เพราะใบเซอร์เพียงอย่างเดียวไม่พอการันตีได้ว่า อัญมณีในมือท่าน เป็นของแท้!! นายนพดล ปิยะตระภูมิ รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) พร้อมด้วยนางสาวจุลลดา มีจุล รองผู้อำนวยการ สคช. ร่วมในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การยกระดับสมรรถนะบุคคลในสาขาวิชาชีพอัญมณี เครื่องประดับ และโลหะมีค่า” ร่วมกับสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ GIT ลงนามโดยนางดวงกมล เจียมบุตร ผู้อำนวยการ GIT จัดทำมาตรฐานอาชีพคุณวุฒิวิชาชีพสาขาอัญมณีและเครื่องประดับ อาชีพนักอัญมณีศาสตร์ และอาชีพนักโลหะศาสตร์ เนื่องจากเล็งเห็นว่าไทยซึ่งเป็นตลาดอัญมณีและเครื่องประดับอันดับต้นๆ ของโลก มีธุรกิจห้องปฏิบัติการตรวจสอบอัญมณีและเครื่องประดับเกิดขึ้นหลายแห่ง แต่ยังไม่มีหน่วยงานใดจัดทำมาตรฐานห้องปฏิบัติการฯ เพื่อควบคุมรูปแบบห้องปฏิบัติการฯ ควบคุมคุณภาพระบบการทำงาน รวมทั้งความสามารถในการทำงานของคนในอาชีพมาก่อน ทั้งที่มีความเสี่ยงเกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศหากสินค้าที่ไม่ได้คุณภาพไปถึงมือของผู้บริโภค ฉะนั้น ก่อนอัญมณี และโลหะมีค่า จะถึงมือคุณ หากผ่านมืออาชีพมาแล้วรับรองได้ว่าแท้แน่นอน #มอช #มืออาชีพ #สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ #อัญมณี #โลหะมีค่า

  • สคช. คิกออฟ!! เดินสายแจกป้าย “มอช. มืออาชีพ”

    06.01.2563
    607 View

    สคช. คิกออฟ!! เดินสายแจกป้าย “มอช. มืออาชีพ” ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) ออกเดินสายมอบป้าย “มอช. มืออาชีพ” ในโครงการประเทศไทยก้าวไกล คนไทยมืออาชีพ เป็นครั้งแรกให้กับผู้ประกอบการอาหารริมบาทวิถี ตลาดประมงท่าเรือพลี และตลาดโต้รุ่ง จังหวัดชลบุรี ที่ผ่านการประเมินเป็นสุดยอดมืออาชีพกับ สคช. ดร.นพดล ย้ำว่า ป้าย “มอช. มืออาชีพ” จะเป็นเครื่องการันตีให้กับผู้บริโภคได้ว่าหากเห็นป้ายนี้ที่ร้านใด แสดงว่ามั่นใจได้ว่าเป็นร้านอาหารที่มาจากฝีมือผู้ประกอบอาหารที่เป็นมืออาชีพ ทำอาหารได้สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน จากสุดยอดมืออาชีพที่ได้รับการประเมินสมรรถนะตามมาตรฐานสากล ป้าย “มอช. มืออาชีพ” ยังจะช่วยต่อยอดธุรกิจ เพิ่มยอดขายให้กับผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถี เพราะป้ายสามารถสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภคได้ ไม่เพียงเท่านั้นในอนาคตผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถีเหล่านี้ ก็จะไปมีชื่ออยู่ในแอปพลิเคชันปักหมุดมืออาชีพ ที่หากนักท่องเที่ยวมาถึงเมืองชลบุรี ต้องไม่พลาดที่จะมาแวะชิม ช้อป Street Food จากสุดยอดมืออาชีพผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถีที่ตลาดประมงท่าเรือพลี และตลาดโต้รุ่ง จังหวัดชลบุรี โครงการนี้ยังนับเป็นจุดเริ่มต้นยกระดับให้กับ Street Food ทั่วประเทศ สอดรับนโยบายรัฐบาลที่เตรียมคิกออฟ “เดิน กิน ชิม เที่ยว ถนนคนเดิน” ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 22 ธันวาคมนี้ด้วย #มอช #มืออาชีพ #ตลาดประมงท่าเรือพลี #ตลาดโต้รุ่งชลบุรี #สตรีทฟู้ด

  • เยาวราช ฮึด!! พร้อมเป็นมืออาชีพ “Street Food”

    06.01.2563
    585 View

    เยาวราช ฮึด!! พร้อมเป็นมืออาชีพ “Street Food” ผู้ประกอบการ “Street Food” ย่านเยาวราช-ข้าวสาร เตรียมพร้อมเข้าประเมินเป็นมืออาชีพกับ สคช. หลังรัฐบาลคิกออฟกิจกรรมถนนคนเดิน “เดิน กิน ชิม เที่ยว” แล้ว ผู้ประกอบการอาหารริมทาง (Street Food) ย่านเยาวราช ข้าวสาร สำเพ็ง จนถึงรอบเกาะรัตนโกสินทร์ เข้าร่วมฟังการบรรยาย “มืออาชีพตัวจริง ต้องมี มอช.” โดยนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) ที่ย้ำว่าอาชีพผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถี หรือ Street Food เป็นอาชีพดาวเด่นในปี 2563 โดยเฉพาะในย่านนี้เป็นย่านที่มีสตรีทฟู้ดมากที่สุดในกรุงเทพมหานคร ประกอบกับเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันธุรกิจนี้ให้เติบโต เป็นธุรกิจที่สร้างรายได้กระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ สอดคล้องกับแนวทางของ สคช.ที่ต้องการเข้ามาเติมเต็มศักยภาพการแข่งขันให้กับผู้ประกอบการ โดยเฉพาะการสร้างให้เกิดคุณภาพ มาตรฐาน มีความเป็นสุดยอดมืออาชีพจริงๆ เพราะจากนี้ไปประเทศจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ผู้บริโภคจะเลือกมากขึ้น ฉะนั้นเวลาที่ผู้บริโภคเลือกซื้ออาหารเพียงสังเกตป้ายสัญลักษณ์ “มอช. มืออาชีพ” จึงมั่นใจได้ว่าร้านนี้สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานเทียบเท่าสากล เพราะผ่านการการันตีโดยหน่วยงานภาครัฐอย่าง สคช. ซึ่งจะทำให้เป็นทางเลือกของผู้บริโภค ช่วยเพิ่มโอกาสและยอดขายให้กับผู้ประกอบการโดยตรง เพราะแม้จะเป็นอาหารริมทาง แต่ผู้ประกอบอาหารก็ต้องมีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า มีจรรยาบรรณในการเลือกสรรวัตถุดิบ พร้อมให้ความปลอดภัยกับผู้บริโภคเป็นสำคัญ ขณะที่การเสวนา “Street Food มืออาชีพตัวจริง ต้องมีดีอย่างไร” โดยคุณชญานิษฐ์ บุนนาค ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารผลิตภัณฑ์ การตลาด และพัฒนาลูกค้ารายย่อย ธนาคารออมสิน, คุณชญานิน ศิริจางคพัฒนา ผู้อำนวยการฝ่ายสนับสนุนค้ำประกันสินเชื่อ บรรษัทสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บยส.) และ “เชฟปึง” นายไวภพ แซ่ปึง เชฟจากรายการยกโขยงหกโมงเช้า ย้ำว่าความสะอาดเป็นเรื่องสำคัญ เพราะคนซื้อสิ่งแรกที่จะมองเข้ามาในร้านก็คือความสะอาด ปลอดภัยของอุปกรณ์ รวมทั้งวัตถุดิบ บรรยากาศร้าน ภาชนะ ต้องสะอาด ส่วนราคาปัจจุบันเป็นเพียงเรื่องรอง ใบรับรองมาตรฐานอาชีพจึงเป็นเครื่องการันตีให้ลูกค้าได้อย่างดี ว่าร้านนี้สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานแน่นอน ขณะที่ผู้ประกอบการอาหารริมบาทวิถี จากทั้งย่านเยาวราช ข้าวสาร สำเพ็ง จนถึงรอบเกาะรัตนโกสินทร์ ที่เข้าร่วมงาน ต่างพากันตื่นตัวกับการเข้าประเมินสมรรถนะกับ สคช. แต่มีความกังวลในเรื่องการตรวจประเมิน เนื่องจากหลายร้านจำหน่ายอาหารในยามวิกาล ซึ่งทาง สคช. ยืนยัน ไม่ว่าผู้ประกอบการจะอยู่จุดไหน ขายเวลาเท่าไหร่ สคช. ก็พร้อมไปตรวจสอบมาตรฐานร้านถึงที่ ทุกเวลา สำหรับธุรกิจ Street Food ติด 1 ใน 10 ผลวิจัยทางธุรกิจเกี่ยวกับธุรกิจเด่นในปี 2563 โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตต่อเนื่องตลอดช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา มูลค่าเกือบ 3 แสนล้านบาท มีผู้ประกอบการมากกว่า 1 แสนร้านค้า ขณะที่ฟู้ดทรัค (Food Truck) อีกหนึ่งเสน่ห์ร้านอาหารริมทางก็กำลังเป็นที่นิยม และเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันมีรถฟู้ดทรัคอยู่กว่า 1,500 คันทั่วประเทศ คาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเพิ่มอีก 2,500 คัน ขณะที่ภาครัฐให้ความสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ พร้อมขยายตลาดให้สอดรับกับความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงยกระดับให้ได้มาตรฐานสากล #มอช #มืออาชีพ #สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ #สตรีทฟู้ด

  • นายกฯ ควงตะหลิวผัดไทโชว์ เปิดตัวงาน “Thailand Street Food Festival 2020”

    06.01.2563
    716 View

    นายกฯ ควงตะหลิวผัดไทโชว์ เปิดตัวงาน “Thailand Street Food Festival 2020” สคช. ผนึกกำลังร่วมภาครัฐ – เอกชน และเชฟระดับโลก ยกระดับสตรีทฟู้ดเมืองไทยให้ดังไกลระดับโลก กับงาน “Thailand Street Food Festival 2020” เตรียมปิดถนนสีลมทำผัดไทเวิลด์เรคอร์ด ประเดิมแล้ววันนี้ นายกฯ ควงตะหลิวผัดไทโชว์ก่อนประชุม ครม. พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อารมณ์ดีก่อนเข้าประชุมคณะรัฐมนตรี ควงตะหลิวผัดไทโชว์ในบูธเปิดตัวโครงการ “Thailand Street Food Festival 2020” หน้าตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล มี ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) และนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมชิมฝีมือผัดไทของนายกรัฐมนตรี โดยโครงการ “Thailand Street Food Festival 2020” สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) ได้จับมือร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ธนาคารออมสิน ภาครัฐ และเอกชน รวม 14 หน่วยงาน พร้อมด้วยเชฟชุมพล แจ้งไพร จัดขึ้นเพื่อเสริมศักยภาพให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทย ที่ปัจจุบันทำรายได้ให้ประเทศมูลค่าสูงกว่า 3 ล้านล้านบาทต่อปี ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ บอกว่าภาพรวมตลาดอาหารริมบาทวิถี (Street Food) ของไทย เติบโตขึ้นทุกปี มีผู้ประกอบการอิสระที่ดำเนินธุรกิจร้านอาหารริมบาทวิถีกว่า 103,000 ร้าน ในขณะที่นักท่องเที่ยวให้ความนิยมในรสชาติร้านอาหารริมทางของไทย จนติดอันดับสวรรค์ของนักชิม ซึ่ง สคช. ได้เข้ามาทำหน้าที่ติดดาบให้กับผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถี ด้วยการประเมินสมรรถนะ ให้การรับรองผู้ประกอบการที่ผ่านการประเมินเป็นสุดยอดมืออาชีพ Street Food เสริมความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวในการเลือกชิม ช้อป ใช้บริการได้แบบไม่ต้องกังวล ที่สำคัญแนวทางดังกล่าวจะเป็นกลไกสำคัญที่จะช่วยผลักดันให้ไทยขึ้นอันดับ 1 Street Food โลก ทั้งยังส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยว และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย สำหรับ “Thailand Street Food Festival 2020” จะประเดิมที่แรกรับปี 2563 ถนนสีลม ในวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวมาชิม ช้อป อาหารริมทางกันมากกว่า 100,000 คน ก่อนจะจัดครั้งต่อไปในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ – 1 มีนาคม บนถนนบางเอียน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ครั้งที่ 3 ถนนบางแสนสาย 2 จังหวัดชลบุรี ในวันที่ 4-6 เมษายน ครั้งที่ 4 วันที่ 25-26 เมษายน ที่จังหวัดเชียงใหม่ บนถนนกลางเวียงเจียงใหม่ จากนั้นจัดที่ถนนรอบบึงทุ่งสร้าง จังหวัดขอนแก่น ในวันที่ 1-3 พฤษภาคม และครั้งที่ 6 ถนนคนเดินตลาดใหญ่ จังหวัดภูเก็ต ระหว่างวันที่ 30-31 พฤษภาคม เนื่องจากพื้นที่ทั้ง 6 แห่งเป็นหัวเมืองด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวสำคัญของประเทศที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ขณะที่เชฟชุมพร แจ้งไพร ในฐานะหัวหน้าคณะทำงาน “Thailand Street Food Festival 2020” ย้ำว่านี่จะเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่จะเนรมิตสวรรค์ของนักชิมเอามาไว้ที่ริมบาทวิถีทั่วประเทศ โดยเฉพาะในงานจะมีการทำ “ผัดไทเวิลด์เรคอร์ด” ด้วยการชิญกินเนสเวิลด์เรคอร์ดมาร่วมบันทึกสถิติกระทะผัดไทที่ยาวที่สุดในโลก และปริมาณผัดไท 1 กระทะที่มากที่สุดในโลก มีเชฟมือฉมังติดรางวัล มิชลินสตาร์ อย่าง “เชฟแอนดี้ ยังเอกสกุล” พร้อมStreet Food ระดับ 5 ดาว กว่า 100 ร้านค้า ไม่เพียงเท่านั้นจะมี 400 ร้านดังที่ผ่านการคัดเลือกมาแล้วจากทั่วทุกมุมของประเทศ กับอีก 60 Food Truck ระดับแนวหน้าจะมารวมตัวในงาน โดยจะมีการโหวตคะแนนจากนักท่องเที่ยวเพื่อเฟ้นหาสุดยอด Street Food จากการโหวตผ่านแอปพลิเคชัน และอีกหนึ่งไฮไลท์คือการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ และแอปพลิเคชัน ลุ้นรับคูปองอิเล็กทรอนิกส์ (e-coupon) มูลค่า 300 บาท จำนวน 2,000 สิทธิ์ในวันแรกของการจัดงานด้วย #มอช #มืออาชีพ #สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ #สตรีทฟู้ด

  • Street Food แต่ Bus Food ก็มี “มอช. มืออาชีพ”

    06.01.2563
    498 View

    ไม่ใช่แค่ Street Food แต่ Bus Food ก็มี “มอช. มืออาชีพ” นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มอบป้ายมืออาชีพ "Professional Bus Driver" ติดรถ Thai Bus Food Tour ที่คนขับผ่านการประเมินสมรรถนะฯ เป็นมืออาชีพผู้ขับขี่รถทัวร์โดยสาร ที่วันนี้พร้อมให้บริการทัวร์รอบเกาะรัตนโกสินทร์ พร้อมอาหารไทยจากร้านชื่อดังตลอดเส้นทาง มี นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา คุณชัยรัตน์ ไตรรัตนจรัสพร ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และผู้บริหารระดับสูงกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมในงาน ทั้งนี้ ผู้ขับขี่รถทัวร์โดยสารที่ผ่านการประเมินสมรรถนะตามมาตรฐานอาชีพ จะสามารถจัดการวางแผนเส้นทางการเดินทาง รวมทั้งดูแลผู้โดยสาร ตั้งแต่ขับรถ ออกรถ และหยุดรถได้อย่างนุ่มนวล รับรองไม่สะเทือนน้ำในแก้วบนโต๊ะอาหาร เป็นมืออาชีพจริงแท้แน่นอน เพราะสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ที่นี่มืออาชีพ #มอช #มืออาชีพ #สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ

  • สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) ลงนามความร่วมมือ กับ สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.)

    03.12.2562
    619 View

    ฤดูแห่งการเที่ยวมาแล้ว คนบริการก็ต้องพร้อม!! สคช. จับมือสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เดินเครื่อง “คนโรงแรมมืออาชีพ” เต็มสูบ นายนพดล ปิยะตระภูมิ รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) ลงนามความร่วมมือ กับ สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) จะร่วมกันยกระดับมาตรฐานบุคลากรด้านการท่องเที่ยว พร้อมจัดเต็มคนโรงแรมให้เป็นมืออาชีพรองรับนักท่องเที่ยวที่จะแห่เข้ามาเที่ยวไทย ให้สมกับไทยเป็นสยามเมืองยิ้ม นักท่องเที่ยวมาเยือนถึงถิ่นเจ้าบ้านที่ดีต้องให้การต้อนรับขับสู้อย่างประทับใจได้มาตรฐานระดับสากล

  • สคช. ผนึก 36 ภาคีเครือข่ายสัมมาชีพ สานพลังขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน

    03.12.2562
    611 View

    สคช. ผนึก 36 ภาคีเครือข่ายสัมมาชีพ สานพลังขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (สคช.) และนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการ สคช. ร่วมในงานครบรอบ 10 ปี มูลนิธิสัมมาชีพ ประจำปี 2562 ระหว่างงานนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ หัวข้อพลังงานเพื่อชุมชนกับการสร้างเศรษฐกิจฐานรากซึ่งได้เน้นย้ำชุมชนเป็นฐานรากสำคัญของประเทศ หากชุมชนอ่อนแอ รัฐมีหน้าที่ในการสร้างสมดุล สร้างพื้นฐานให้สังคม กำหนดกติกา ทั้งนี้ต้องยอมรับว่านโยบายรัฐจะดีหรือไม่ดีมีภาคเอกชนเป็นตัวหลักสำคัญ ถ้าเอกชนอ่อนแอรัฐเองก็ต้องร่วมผลักดัน แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ปัจจัยที่ทำให้ประเทศแข็งแกร่ง ตราบเท่าที่ชุมชนยังอ่อนแอ การทำให้ชุมชนแข็งแรงต้องใช้เวลาเห็นผลช้า และเป็นเรื่องที่มูลนิธิสัมมาชีพกำลังดำเนินการ เพราะชุมชนเป็นหัวใจของอนาคต เป็นเรื่องสำคัญที่มูลนิธิสัมมาชีพต้องช่วยกัน เพราะหากทำให้ชุมชนแข็งแรงไม่ได้ ความมั่งคั่งยั่งยืนก็จะไม่เกิด ซึ่งกระทรวงพลังงานก็มีแนวคิดสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้ชุมชนด้วยการใช้ความแข็งแรงของภาคเกษตรสู่ความมั่งคั่ง ทำให้เกิดเป็นรายได้ ล่าสุดกำลังดำเนินการ นโยบายโรงไฟฟ้าชุมชน เพื่อทำให้ภาคเกษตรเข้มแข็ง เอาความเข้มแข็งมาแปรรูปเป็นพลังงาน เอาวัสดุเหลือใช้มาผลิตไฟฟ้า เอาของที่ทิ้งมาผลิตไฟฟ้า ชุมชนก็จะเกิดรายได้ ครัวเรือนมีรายได้เพียงพอ เป็นการใช้พลังงานปฏิรูปภาคเกษตรสร้างรายได้จากพลังงาน โดยในงานวันนี้ ดร.นพดล ยังได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ร่วมกับ 36 องค์กรภาคีเครือข่าย ทั้งภาครัฐ และเอกชน ในการจะร่วมกันขับเคลื่อนงานสานพลังขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาคนให้พึ่งพาตัวเองได้ เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดโอกาสกับชุมชนในการพลิกชีวิต เพื่อขับเคลื่อนสังคม ขับเคลื่อนประเทศไปด้วยกัน