ณ พระลานพระราชวังดุสิต ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำคณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมพิธีวางพวงมาลา และถวายบังคม หน้าพระบรมราชานุสรณ์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย เนื่องในวันปิยมหาราช ประจำปี 2563 เพื่อเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดี น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการมาโดยตลอดนับตั้งแต่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ จนกระทั่งเสด็จสวรรคต ที่ทรงอุทิศพระองค์เพื่อบ้านเมืองและอาณาประชาราษฎร ทรงปกครองบ้านเมืองด้วยทศพิธราชธรรม ด้วยพระราชกรณียกิจและพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีแก่ประเทศและประชาชนชาวไทยอันเป็นที่รักยิ่ง

สคช. ดึง ม.หอการค้าไทย ร่วมสร้าง และผลิตกำลังคนให้ตอบโจทย์การทำงานธุรกิจการค้าและอุตสาหกรรมบริการ 4.0 สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ(องค์การมหาชน) ร่วมกับ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการและการพัฒนาศักยภาพบุคคลด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ ณ ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกับ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในเรื่องการพัฒนากศักยภาพบุคคลด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ และสนับสนุนให้มีการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ ตลอดจนผลักดันให้เกิดการศึกษาวิจัยและพัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะด้วยมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อให้สามารถผลิตบุคลากรที่มีสมรรถนะพร้อมต่อการทำงาน โดยมีนายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมคณะผู้บริหารทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมเป็นสักขีพยาน ดร.นพดล กล่าวว่าสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมผลักดันให้เกิดการนำมาตรฐานอาชีพมาใช้ในการผลิตกำลังคนให้มีสมรรถนะพร้อมต่อการทำงาน มีความพร้อมเข้าสู่การทำงานที่สามารถแข่งขันกับทั่วโลกได้ ซึ่งเป็นเรื่องน่าชื่นชมที่ผู้บริหารมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมีวิสัยทัศน์ในการนำระบบคุณวุฒิวิชาชีพมาใช้ในการพัฒนาศักยภาพนักศึกษา เพราะเป็นระบบที่ทั่วโลกเข้าใจและให้การยอมรับ รวมทั้งใช้ในการพัฒนากำลังคนอย่างยั่งยืน ตอบโจทย์ความต้องการทั้งภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม ซึ่งความร่วมมือทั้ง 2 ฝ่ายที่เกิดขึ้นจะช่วยให้ประเทศไทยขับเคลื่อนกำลังคนได้ตรงตามความต้องการให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และการพัฒนาประเทศให้แข่งขันในเวทีโลกได้ ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ บอกว่า ความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะช่วยสร้างและผลิตบุคลากรที่มีสมรรถนะพร้อมต่อการทำงานธุรกิจการค้าและอุตสาหกรรมบริการไทยแลนด์ 4.0 ในสาขาวิชาชีพการบิน สาขาวิชาชีพการท่องเที่ยว การโรงแรม และภัตตาคาร สาขางานโรงแรม (มัคคุเทศก์) สาขาวิชาชีพการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม สาขาอุตสาหกรรมอาหาร และสาขาวิชาชีพเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารและดิจิทัลคอนเทนต์ (อาชีพนักออกแบบเกม และอาชีพนักออกแบบโปรแกรม) ฯลฯ โดยทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยมีการส่งเสริมและสนับสนุนนำมาตรฐานอาชีพเข้าสู่กระบวนการเรียนการสอนในหลักสูตรของมหาวิทยาลัย ในสาขาวิชาชีพหรือสาขาอาชีพที่มีการตกลงร่วมกัน พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงานในสังกัดของมหาวิทยาลัยได้รับการรับรองเป็นองค์กรที่มีหน้าที่รับรองสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ เพื่อให้นักศึกษาสามารถเข้าสู่กระบวนการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ให้ได้รับใบประกาศนียบัตรคุณวุฒิวิชาชีพ และหนังสือรับรองมาตรฐานอาชีพ รวมทั้งสร้างการรับรู้และยอมรับในระบบคุณวุฒิวิชาชีพ เพื่อร่วมสร้างมาตรฐานและคุณวุฒิวิชาชีพสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไป

สคช. ร่วมเปิดตัว 6 อาชีพเสริมสวยระยะที่ 2 พร้อมให้คนในอาชีพได้ประกาศศักดาสู่เวทีสากล นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมในการแถลงข่าวสรุปการจัดทำโครงการมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพธุรกิจเสริมสวย ระยะที่ 2 ซึ่งมีการจัดทำเพิ่มเติมอีก 6 อาชีพ ทั้งช่างสักคิ้ว ช่างต่อขนตา ช่างทำเล็บ ช่างแต่งหน้า ผู้บริหารกิจการเสริมสวย และผู้สอนเสริมสวย โดยมีพลเอกจรัล กุลละวณิชย์ อดีตรองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ในฐานะนายกสภามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์, ผู้เชี่ยวชาญในสาขาอาชีพ รวมทั้งคนในอาชีพ และสื่อมวลชนเข้าร่วมในงาน ทั้งนี้พลเอกจรัล ย้ำว่าจากนี้ไปคนในอาชีพจะมีความภาคภูมิใจจากคุณวุฒิวิชาชีพ ที่แม้จะไม่มีต้นทุนทางการศึกษา แต่มีต้นทุนในคุณวุฒิวิชาชีพที่จะทำให้ประกอบอาชีพได้อย่างไม่น้อยหน้าใคร และทุกโครงการที่มีมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ ก็จะเป็นการแสดงถึงความเป็นผู้นำด้านอารยธรรมของชาติไทยที่ไม่แพ้ใครใดๆ ในโลก นางสาววรชนาธิป บอกว่าในยุคโควิด-19 อาชีพเสริมสวยซึ่งเป็นอาชีพในกลุ่มบริการ มีความจำเป็นต้องประกอบอาชีพให้มีมาตรฐานถูกสุขอนามัย เพราะจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ อย่างการสักคิ้ว ต่อขนตา ซึ่งมีความอันตรายอยู่ใกล้ดวงตา การทำเล็บ มีการใช้สารเคมี ฉะนั้นผู้ประกอบอาชีพ จึงจำเป็นต้องรู้ทุกขั้นตอนอย่างถูกต้องตามมาตรฐานสากล เพื่อสร้างความเชื่อมั่น มั่นใจให้กับผู้รับบริการ ว่าจะไม่เกิดอันตราย และการจัดทำมาตรฐานในครั้งนี้จะช่วยยกระดับให้กับคนในธุรกิจเสริมสวยอีก 6 อาชีพ ที่ต่างขานรับ และแสดงถึงความภูมิใจ ที่สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้ความสำคัญกับคนในธุรกิจนี้ ได้มีตัวตนในเส้นทางอาชีพ และกล้ายืนอยู่ต่อสู้ในสนามบนเวทีโลกด้วย

“สคช” นำร่องโครงการจัดส่งแรงงานไทยภาคอุตสาหกรรมฐานรากไปทำงานที่สาธารณรัฐเกาหลี วันที่ 14 ตุลาคม 2563- คุณนฤมล พูลทรัพย์ ที่ปรึกษา สคช. และ ดร.อภิชาติ ธนานันท์ (นผ.) เข้าพบ Mr. Cheon Hak Ki ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาบุคลากรแห่งเกาหลีประจำประเทศไทย (HRD Korea EPS Center in Thailand: HRDK) ณ กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน และได้ร่วมแลกเปลี่ยนข้อมูลการดำเนินงานของสถาบันฯ และหารือถึงแนวทางความร่วมมือระหว่างสถาบันฯ และ HRDK ในการส่งเสริมสมรรถนะของแรงงานไทยเพื่อเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับสากล ซึ่งตามข้อกำหนดของระบบการจ้างแรงงานต่างชาติของเกาหลี หรือ Employment Permit System (EPS) แรงงานไทยที่ประสงค์จะไปทำงานที่เกาหลีจะต้องผ่านการทดสอบภาษาเกาหลีและการทดสอบสมรรถนะและทักษะการทำงาน โดยในเบื้องต้น สคช. ได้เสนอเป็นผู้พัฒนาระบบ E-training ด้านภาษาเกาหลีเพื่อเตรียมความพร้อมแรงงานไทยด้านทักษะการสื่อสารที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงาน ซึ่ง HRDK ได้เห็นชอบในหลักการและพร้อมจะร่วมมือกับ สคช. โดยได้เสนอให้มีการเทียบเคียงคุณวุฒิวิชาชีพและมาตรฐานอาชีพ สาขาวิชาชีพก่อสร้าง โดยอาจนำร่องสาขาก่อสร้างฐานรากและโครงสร้างอาคารซึ่งแรงงานไทยมีทักษะและความเชี่ยวชาญสูง เพื่อลดขั้นตอนการจ้ดหาและคัดเลือกแรงงานไทย ในการนี้ ทั้งสองฝ่ายได้พิจารณาเห็นชอบที่จะทบทวน MOU ว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ ระหว่าง กรมการจัดหางาน และ สคช. เพื่อขยายกรอบความร่วมมือในประเด็นดังกล่าว นอกจากนี้ ฝ่ายเกาหลี ได้แจ้งให้ทราบว่า HRDK มีแผนที่จะเยือน สคช. เร็วๆ นี้ เพื่อแนะนำหน่วยงาน และหารือโอกาสและแนวทางความร่วมมือในรายละเอียดต่อไป

สคช. รวมพลช่างผมมืออาชีพบุกเมืองมะขามหวาน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพ บุกปั้นช่างผมเมืองมะขามหวาน ให้เป็นมืออาชีพ พร้อมต่อยอดเมืองแห่งมืออาชีพอาหารริมบาทวิถี นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ เดินหน้าโครงการขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวไกลคนไทยมืออาชีพ และการสร้างเมืองแห่งมืออาชีพ ด้วยมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ ประเดิมที่จังหวัดเพชรบูรณ์ด้วยการปั้น 49 ช่างผมเมืองมะขามหวาน ให้เป็นมืออาชีพด้วยการประเมินสมรรถนะ และให้การรับรองความสามารถของคนที่เป็นไปตามแนวทางมาตรฐานสากล นางสาววรชนาธิป บอกว่าการสร้างเมืองแห่งมืออาชีพ เป็นจุดเริ่มต้นการพัฒนาประเทศด้วยการสร้างฐานรากที่มั่นคงจากการพัฒนากำลังคนให้ประกอบอาชีพได้อย่างมีมาตรฐาน มีรายได้ที่มั่นคง ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดแรงงาน ที่สำคัญคนในอาชีพสามารถพัฒนาตัวเองไปสู่คุณวุฒิวิชาชีพที่สูงขึ้น สร้างจุดเด่นให้กับธุรกิจ กระทั่งต่อยอดธุรกิจของตัวเองได้ให้สมเป็นมืออาชีพยุคใหม่ ตามวิถีใหม่ อย่างช่างทำผมเองก็จำเป็นต้องปรับตัว จากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ช่างผมต้องเรียนรู้แนวทางการให้บริการอย่างถูกต้อง ปลอดภัย ได้มาตรฐาน เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ และเป็นการรองรับการเปิดเมืองท่องเที่ยวในอนาคต เมืองแห่งมืออาชีพจึงเป็นอีกมาตรการที่จะช่วยเสริมสร้างมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย เป็นการยกระดับมาตรฐานการให้บริการตามแนววิถีชีวิตใหม่อย่างมืออาชีพ ซึ่งการลงพื้นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ในครั้งนี้จะเป็นการช่วยเติมเต็มมาตรฐาน การเตรียมความพร้อมในการให้บริการ รวมทั้งเติมเต็มทุกการต่อยอดขยายธุรกิจให้กับช่างทำผมที่เข้าประเมินสมรรถนะ ได้การรับรองเป็นมืออาชีพจาก สคช. ที่ล่าสุดมีผู้ผ่านการประเมินเป็นช่างผมมืออาชีพประจำเมืองมะขามหวานแล้ว 49 ราย รวมทั้งมีการให้ความรู้และการเตรียมตัวเป็นเมืองแห่งมืออาชีพด้านอาหารริมบาทวิถี ที่ได้ผู้รู้อย่างเชฟไวภพ แซ่ปึง ซึ่งเป็นเชฟมืออาชีพ ชื่อดังจากรายการ ยกโขยง 6 โมงเช้า ที่พร้อมเปิดทุกขั้นตอนการเป็นมืออาชีพผู้ประกอบการอาหารริมบาทวิถี เสริมทัพต่อยอดธุรกิจด้วยแอปพลิเคชันปักหมุดมืออาชีพ มีที่ปรึกษาทางการเงินที่ดีจากบรรษัทประกินสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศ (SME D Bank)

ผนึกกำลัง 5 เสือ ยกระดับกำลังคนสู่โลก E-Commerce สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) จับมือ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และธนาคารออมสิน ประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันพัฒนากำลังคนด้วยมาตรฐานอาชีพสู่โลก E-Commerce นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะกำกับดูแลสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ร่วมเป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือ การพัฒนามาตรฐานสมรรถนะด้านการใช้อีคอมเมิร์ซ ระหว่างสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และธนาคารออมสิน โดยมีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นางสาวสราญภัทร อนุมัติราชกิจ รองปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ ผู้อำนวยการสถาบันฯ คณะผู้บริหารสถาบันฯ และผู้แทนหน่วยงาน ร่วมในงาน นายดอน ระบุว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 เป็นบทเรียนสำคัญที่สร้างความเปลี่ยนแปลงทางความคิดในการดำเนินชีวิตรูปแบบใหม่ ทุกคน ทุกภาคส่วนปรับตัวด้วยการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการทำงาน การดำเนินธุรกิจ และชีวิตประจำวันกันมากขึ้น ซึ่ง e-commerce หรือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ได้เข้ามามีบทบาทต่อพฤติกรรมของผู้บริโภค ตอบโจทย์สถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างชัดเจน สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างมหาศาลและรวดเร็ว สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ ตรงตามเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการพัฒนาประเทศให้ทันต่อบริบททางเศรษฐกิจและสังคม ความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นภาพความร่วมมือครั้งสำคัญ ที่ทำให้เกิดการสร้างโอกาสใน 3 ประเด็นหลักสำคัญ คือสร้างโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลให้ทันต่อสถานการณ์ สร้างโอกาสในการพัฒนาคน ปลุกพลังในตัวให้สร้างสรรค์ผลงาน นวัตกรรมต่างๆ และการสร้างความร่วมมือที่ทำให้เกิดความเป็นรูปธรรมในการพัฒนาประเทศ ที่ทั้ง 5 หน่วยงานซึ่งมีความแตกต่างกันในภารกิจหลัก แต่สามารถรวมตัวกันเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัล และยังเป็นการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม เปิดโอกาสในการพัฒนาศักยภาพคนไทยไปสู่สังคมฐานความรู้ ยกระดับกำลังคน และรายได้ รวมทั้งยกระดับทรัพยากรฐานรากในการพัฒนาประเทศด้วย ด้านนายนคร กล่าวว่า e-commerce ได้เข้ามามีบทบาทพยุงเศรษฐกิจของประเทศในช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 เป็นอย่างมาก เพราะช่วงวิกฤตที่เกิดขึ้นทำให้เห็นภาพชัดถึงทิศทางการใช้ช่องทางออนไลน์ในการทำธุรกิจมากขึ้นทั่วโลก ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไปที่ใช้ในชีวิตประจำวัน ซึ่งสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มีนโยบายสร้างความร่วมมืออย่างเป็นรูปธรรมกับทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อนำไปสู่การพัฒนากำลังคนของประเทศให้มีประสิทธิภาพ เป็นรูปธรรม ซึ่งปัจจุบันได้ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจัดทำมาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพแล้วมากกว่า 800 อาชีพ เพื่อให้ระบบคุณวุฒิวิชาชีพเกิดประโยชน์ต่อคนในอาชีพ ความร่วมมือที่เกิดขึ้นจะช่วยส่งเสริมให้การทำธุรกรรมด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ หรือทำการค้าผ่านระบบออนไลน์ มีแนวทางและมาตรฐานในการพัฒนาตัวเอง มีหลักสูตรการฝึกอบรมทั้งออนไลน์และออฟไลน์ ที่ทุกคนสามารถเข้ารับการประเมินและได้การรับรองสมรรถนะ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค รวมทั้งสถาบันการเงินได้เป็นอย่างดี ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาทักษะด้าน e-commerce เพื่อนำไปสร้างมูลค่าเพิ่มในการประกอบอาชีพ ยกระดับกำลังคนเข้าสู่โลก e-commerce อย่างเต็มรูปแบบต่อไป

พร้อมยกระดับช่างก่อสร้าง 6 สาขาอาชีพ ให้เป็นช่างมืออาชีพ มาตรฐานอาชีพและคุณวุฒิวิชาชีพ สาขาวิชาชีพก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมเปิดประเมินใน 6 สาขาวิชาชีพ ทั้งช่างเขียนแบบจำลองสารสนเทศอาคาร ผู้ติดตั้งรื้อถอนปั้นจั่นหอสูง ช่างงานทำผิวจราจรแอลฟัสท์คอนกรีต ช่างงานดันท่อลอด ผู้ควบคุมงานเครื่องจักรงานดิน และช่างติดตั้งกระจกอาคาร ยกระดับกำลังคนกลุ่มก่อสร้างให้เป็นช่างมืออาชีพ ซึ่งการจัดทำมาตรฐานอาชีพนี้ก็เพื่อพัฒนาทักษะขั้นพื้นฐาน ทักษะเฉพาะในวิชาชีพ ความรู้ความสามารถของคนในอาชีพ ให้สอดคล้องความต้องการของตลาดแรงงาน โดยมีหน่วยงานภาครัฐอย่างสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพให้การการันตียกระดับคุณภาพคนในอาชีพ

"สคช.พร้อมพันธมิตร ร่วมงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "อนาคตดูแลผู้สูงอายุ" เตรียมทัพรับธุรกิจ เสริมแกร่งการตลาด จัดกระบวนทัพรับ New Normal" ผู้แทนสถาบันฯ สำนัก บค 4 สำนัก บค 2 ร่วมงานและประชาสัมพันธ์ภารกิจของสถาบันฯ ในงานสัมมนาเชิงปฏิบัติการ "อนาคตดูแลผู้สูงอายุ" ณ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระหว่างวันที่ 7-8 ตุลาคม 2563 โดยมีผู้เข้าอบรมทั้งสิ้นกว่า 150 ราย โดยได้รับเกียรติจาก นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ รองอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานกล่าวเปิดงาน โดยมีผู้บริหารหน่วยงานภาครัฐและเอกชนมาร่วมเป็นเกียรติ ทั้งนี้ทางสถาบันฯ ได้รับเชิญเข้าร่วมงานโดย นส.วรรณศรี โชติกะพุกกนะ ผู้อำนวยการส่วนส่งเสริมธุรกิจบริการ กรมพีฒนาธุรกิจการค้า เพื่อประชาสัมพันธ์มาตรฐานอาชีพผู้ดูแลผู้สูงอายุ และได้เชิญพันธมิตรทางการเงิน:ออมสินและ SME D Bank ร่วมให้ข้อมูลด้านเงินทุนเพื่อเป็นแนวทางต่อยอดทางธุรกิจ โดยบูธประชาสัมพันธ์ของ สคช. ออมสิน และ SME D Bank ต่างได้รับความสนใจจากกลุ่มอาชีพอย่างมาก การเสวนาเชิงปฏิบัติการนี้มีหัวข้อ - เตรียมรับธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ -การบริหารข้อจำกัดในการดำเนินธุรกิจ -เทคนิคการตลาด -กลยุทธ์สู่ความสำเร็จที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ

ฮาย อาภาพร ยังต้องร้องว่า “มืออาชีพ” สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) โดยนางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันฯ ควงเชฟระดับโลกอย่าง เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟมิชิลินสตาร์สองดาวคนไทยคนแรกของโลก เชฟเสาวกิจ จากสมาคมเชฟประเทศไทย เชฟวัชรพงษ์ เมฆผึ้ง จากครัวการบินไทย พร้อมทีมงานผู้บริหารธนาคารออมสิน ออกประเมินสมรรถนะผู้ประกอบอาหารในงาน Thailand Street Food Festival 2020 ลานหน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ ระหว่างวันที่ 2-4 ตุลาคม 2563 โดยมีผู้ประกอบอาหารถึง 20 ร้าน ที่ผ่านการประเมินเป็นมืออาชีพกับ สคช. ซึ่งหนึ่งในนั้นมีร้าน “ฮายแดดเดียว” ของ “ฮาย อาภาพร นครสวรรค์” รวมอยู่ด้วย ซึ่งผู้ที่ผ่านการประเมินสมรรถนะ กับ สคช. ยังได้รับมอบป้ายมืออาชีพที่แสดงให้เห็นว่าเป็นผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถีที่มีมาตรฐาน มีความรู้ในการปรุงอาหารอย่างปลอดภัย ถูกสุขอนามัย การจัดการของเสีย บริหารจัดการปฏิบัติงานปรุงอาหาร และจัดการงานบริการได้อย่างถูกต้อง สมควรได้รับการการันตีจากหน่วยงานภาครัฐอย่าง สคช. ที่สำคัญผู้ประกอบอาหารเหล่านี้จะมีชื่ออยู่ในแอปพลิเคชันปักหมุดมืออาชีพ ที่เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการหาลูกค้า สร้างรายได้ หรือใครอยากจัดงานออกร้าน แล้วอยากได้ร้านที่มีคนทำมืออาชีพไปออกงาน ก็สามารถค้นหาได้จากแอปพลิเคชันปักหมุดมืออาชีพได้เช่นกัน

สคช. ร่วมปลุกกระแสเที่ยวไทย ในงาน Thailand Street Food Festival 2020 นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมในงาน "Thailand Street Food Festival 2020" ณ ลาน CentralWorld ที่จัดขึ้นโดยความร่วมมือของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ธนาคารออมสิน สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ภาคเอกชนอีกหลายหน่วยงาน และหัวเรือใหญ่อย่างเชฟชุมพล แจ้งไพร มิชลินสตาร์เชฟ 2 ดาว และเป็นผู้เชี่ยวชาญในสาขาผู้ประกอบอาหาร กับสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บอกว่าสตรีทฟู้ดเมืองไทย เป็นเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยว ที่โด่งดังติดอันดับโลก แต่สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ได้ส่งผลกระทบโดยตรงกับผู้ประกอบการ แต่การท่องเที่ยวต้องดำเนินต่อตามวิถี new normal ที่เวลานี้โชคดีที่มีสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพมาช่วยเป็นอีกหน่วยงานในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยให้เป็นไปอย่างมีมาตรฐาน เพราะสิ่งสำคัญของการท่องเที่ยวแบบ new normal ก็คือมาตรฐานการบริการ และมาตรการด้านสาธารณสุข ถ้าดำเนินรูปแบบนี้ได้ ท่องเที่ยวไทยก็จะอยู่ได้ด้วยเช่นกัน ด้านนางสาววรชนาธิป บอกว่าโครงการนี้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาต่อยอดธุรกิจสตรีทฟู้ดของไทย ให้มีความเป็นมืออาชีพโดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมผลักดันให้ผู้ประกอบการมีความรู้ด้านบริหารจัดการด้านความสะอาด สุขอนามัย ตั้งแต่การเตรียมวัตถุดิบ ถึงขั้นตอนการปรุงอาหาร ให้เป็นผู้ประกอบอาหารมืออาชีพที่ได้การรับรองจากหน่วยงานภาครัฐอย่าง สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพด้วย สำหรับงาน Thailand Street Food Festival 2020 ไม่เพียงจัดขึ้นที่ลาน CentralWorld กรุงเทพมหานคร วันที่ 2-4 ตุลาคม เท่านั้น แต่คาราวานสตรีทฟู้ดจะเดินสายสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว และผู้บริโภคในประเทศไทย กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวและจับจ่ายใช้สอย ในทุกภูมิภาคทั่วประเทศรวม 5 ครั้งด้วยกัน โดยวันที่ 13-15 พฤศจิกายน 63 จัดที่ จ.นครราชสีมา, วันที่ 27-29 พฤศจิกายน 63 จ.เชียงใหม่, วันที่ 4-6 ธันวาคม 63 ณ จ.ภูเก็ต และวันที่ 11-13 ธันวาคม 63 ณ พัทยา จ.ชลบุรี ซึ่งภายในงานจะมีการประกวดสุดยอดอาหารสตรีทฟู้ด “Thailand Street Food Star” การออกร้านอาหารสตรีทฟู้ดชื่อดังมากกว่า 60 ร้าน ที่ผู้บริโภคยังสามารถลุ้นรับคูปองกินฟรีกว่า 600 รางวัล และลุ้นรับทองคำ 100 รางวัล เมื่อร่วมโหวตร้านอาหารโดนใจ “Street Food Popular Vote” อีกด้วย

สคช. ร่วมระดมสมองขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านแรงงาน ดร.นพดล ปิยะตระภูมิ ผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมเจ้าหน้าที่สถาบันฯ ประชุมร่วมกับ คณะทำงานปฏิรูปประเทศด้านแรงงาน นำโดยนายนคร ศิลปอาชา กรรมการปฏิรูปประเทศด้านวัฒนธรรม กีฬา แรงงาน และการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการฯ ด้านแรงงาน โดยสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ พร้อมสนับสนุนแนวทางการปฏิรูปประเทศในทุกด้าน เนื่องจากการทำงานของ สคช. มีความเกี่ยวข้องกับการรับรองความสามารถ และพัฒนากำลังคนในอาชีพให้สอดรับความต้องการของตลาดแรงงานโดยตรง โดย สคช. ได้ประชุมเชิงปฏิบัติการซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นการหารือแนวทางการบูรณาการขับเคลื่อน Thailand Workforce Agency (TWA) ที่จะเป็นศูนย์กลางการบริหารจัดการกำลังคนของประเทศให้ตอบโจทย์สอดรับกับทิศทางการพัฒนาประเทศ และตรงตามความต้องการกำลังคนในตลาดแรงงานให้นำไปปฏิบัติได้จริงอย่างเป็นรูปธรรม และเป็นการเตรียมความพร้อมดำเนินการตามแผนปฏิรูปด้านแรงงานที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย

มืออาชีพ พาชิม ตลาดประมงท่าเรือพลี ที่พลิกฟื้นท่าเทียบเรือในอดีตของเมืองชลบุรี ให้เป็นแหล่งรวมอาหารทะเล ส่งเสริมการค้า อาหารทะเล กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน ทั้งของสด ของแห้ง ของปรุงสุก เรียกว่าหาซื้อ หากินกันได้หนำใจทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ แต่ถ้ายังอิ่มไม่สาใจ ก็ไปหาของกินกันต่อได้ที่ตลาดโต้รุ่งชลบุรี รับรองงานนี้มีเตรียมยาช่วยย่อยกันแน่นอน ไม่เชื่อถาม “รองเอ๋” วรชนาธิป จันทนู พาทัวร์ตลาดประมงท่าเรือพลี-ตลาดโต้รุ่งชลบุรี เพราะที่นี่เค้ามี “ร้านอร่อยมืออาชีพ” สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน อยู่เต็มตลาดรอให้มาลิ้มลอง ไม่จกตากันนะจ๊า!!

นายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ นำคณะกรรมการสถาบันฯ คณะผู้บริหารสถาบันฯ ร่วมประชุมสัญจร ณ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) พร้อมพบปะผู้ประกอบการที่ผ่านการประเมินสมรรถนะเป็นมืออาชีพกับ สคช. 8 ราย อาชีพผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถี อาทิ ร้านเจ๊นิด ทุเรียนระยอง ที่จำหน่ายทุเรียนที่ได้คุณภาพ มาตรฐาน สร้างมูลค่าเพิ่มได้กิโลกรัมละ 5,000 บาท, ร้านมะพร้าวน้ำหอม เกษตรกรราชบุรี ที่ได้รางวัลและช่วยเหลือวิสาหกิจชุมชน, ร้านแกงแม่มาลี, ร้านขนมไทยเก้าพี่น้อง, ร้านน้ำพริกบ้านย่า, ร้านเจี๊ยบหมูกรอบ อ.ต.ก., ร้านเป็ดย่างบางโพธิ์ ซึ่งทุกร้านต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การประเมินเป็นมืออาชีพทำให้เพิ่มจุดขาย ลูกค้าให้ความสนใจ และมั่นใจที่จะบริโภคเพราะเชื่อมั่นได้ว่าร้านนี้ประกอบอาหารได้สะอาด ปลอดภัย มีหน่วยงานภาครัฐให้การันตี

สคช. ต้านโกง!! ชมพิพิธภัณฑ์ต้านโกง ไม่คอรัปชัน คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่สถาบันร่วมชมพิพิธภัณฑ์และหอจดหมายเหตุการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สำนักงาน ป.ป.ช. (พิพิธภัณฑ์ต้านโกง) หลังประกาศตัวร่วมเป็นองค์กรต้านโกง ไม่ทุจริต ไม่คอรัปชัน ซึ่งการเยี่ยมชมครั้งนี้ยังได้ร่วมวิเคราะห์พฤติกรรมในชีวิตประจำวัน สื่อสารผ่านสถานการณ์จำลอง และชมวีดิทัศน์การทุจริตของประเทศไทย ที่สะท้อนให้เห็นถึงภาพรวมของปัญหาการทุจริต ช่วยสร้างการตระหนักรู้ให้ผู้ร่วมกิจกรรมทราบถึงมูลค่าความเสียหายจากการทุจริต นับเป็นการปรับทัศนคติให้ผู้ชมมีส่วนร่วมในการดูแลและรักษาผลประโยชน์ส่วนรวม และการชมวิดีโอ บทสรุปของ "คนโกง" ผ่านคดีการทุจริตคลองด่านซึ่งเกิดจากการเข้ามามีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมและสื่อมวลชนในการตรวจสอบการทุจริต เปิดเปิดโอกาสให้ซักถามข้อสงสัยในคดีและที่เกี่ยวกับการทุจริตต่างๆ

กลุ่มนวดไทยล้านนาขานรับ สคช. เตรียมสร้างมาตรฐานอาชีพ "นวดไทยมืออาชีพ" รองฯ วรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ร่วมงานพิธีไหว้ครูการแพทย์แผนไทยและครูนวดไทยล้านนา ประจำปี 2563 ในงาน Lanna Expo 2020 ณ ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ ซึ่งในงานมีผู้ร่วมงานจากหน่วยงานภาครัฐและสมาคม สมาพันธ์ในอาชีพ เช่น พล.ร.อ.ชาญชัย เจริญสุวรรณ นายกสภาการแพทย์แผนไทย, เภสัชกรหญิงนฤมล ขันตีกุล เภสัชสาธารณสุข สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่, เกสัชกรพลแก้ว วัชระชัยสุรพร หัวหน้างานบริการสุขภาพ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่, อาจารย์จงกล เศรษฐกร นายกสมาคมนวดแผนไทยจังหวัดเชียงใหม่ และนายกสมาคม ประธานชมรม สมาพันธ์เครือข่ายการแพทย์แผนไทยและนวดไทยในพื้นที่ภาคเหนือ พร้อมด้วยพนักงานนวด ศิษย์นวดไทยล้านนา เข้าร่วมไหว้ครูอย่างอุ่นหนาฝาคั่ง ด้านรองฯ วรชนาธิป กล่าวว่า พิธีไหว้ครูแพทย์แผนไทยล้านนา มีความงดงามและเป็นเอกลักษณ์ของชาวล้านนาอย่างแท้จริง เป็นการแสดงพลังของกลุ่มอาชีพนวดไทยที่มีความเข้มแข็ง สมควรที่จะได้รับการสนับสนุนและสืบสานให้มีความยั่งยืน นอกจากนี้ การพัฒนาผู้ประกอบอาชีพให้มีสมรรถนะในการทำงานอย่างมืออาชีพและมีมาตรฐานมีความสำคัญในยุคนี้เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะอาชีพนวดไทย ซึ่งองค์การยูเนสโก UNESCO ได้ขึ้นทะเบียนการนวดไทย (Nuad Thai) เป็น "มรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ" เมื่อ 13 ธันวาคม 2562 ทั้งนี้ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพยินดีที่มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมอนุรักษ์มรดกโลกนี้ ผ่านการพัฒนามาตรฐานอาชีพและส่งเสริมให้ผู้ประกอบอาชีพนวดไทย เข้าสู่การประเมินสมรรถนะฯ โดยจะมีการจัดทำมาตรฐานอาชีพร่วมกับสมาคม สมาพันธ์ บุคลากรผู้มีความเชี่ยวชาญในอาชีพ เพื่อยกระดับต่อยอด สร้างความเข้มแข็ง ยั่งยืน ในอาชีพนวดไทย เป็นการพัฒนาเชิงพื้นที่โดยเพื่อปักหมุด "เมืองเชียงใหม่: เมืองแห่งมืออาชีพในการนวดไทย" อย่างแท้จริง ด้านกลุ่มชมรมผู้ประกอบการนวดไทย และสมาคม สมาพันธ์ ด้านการนวดไทยในพื้นที่ภาคเหนือที่มาร่วมงาน ต่างขานรับและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะมีการยกระดับต่อยอดให้บุคลากรในอาชีพนวดไทยได้มีเส้นทางความก้าวหน้าในอาชีพด้วยระบบคุณวุฒิวิชาชีพอย่างยั่งยืน เช่นผู้ประกอบการร้านทองน้ำหนึ่ง นวดจับเส้น มีความปลื้มใจและมีกำลังใจที่จะได้มีการพัฒนากำลังคนในอาชีพให้ผ่านพ้นช่วงวิกฤตนี้ได้ต่อไป

ตลาดเมืองชลบุรี คึกคัก!! ผู้ประกอบอาหาร Street Food ยืนหนึ่งเป็น “มืออาชีพ” กับ สคช. นางสาววรชนาธิป จันทนู รองผู้อำนวยการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ เดินสายมอบ “ป้ายมืออาชีพ” ให้กับผู้ประกอบการอาหารริมบาทวิถี (Street Food) ตลาดประมงท่าเรือพลี และตลาดโต้รุ่ง จังหวัดชลบุรี ที่ผ่านการประเมินเป็นสุดยอดมืออาชีพกับ สคช. ล่าสุดเกือบ 100 ราย นางสาววรชนาธิป ย้ำว่า ป้ายมืออาชีพ จะเป็นเครื่องการันตีให้กับผู้บริโภคได้ว่าหากเห็นป้ายนี้ที่ร้านใด แสดงว่ามั่นใจได้ว่าเป็นร้านอาหารที่มาจากฝีมือผู้ประกอบอาหารที่เป็นมืออาชีพ ทำอาหารได้สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐาน จากสุดยอดมืออาชีพที่ได้รับการประเมินสมรรถนะเทียบเท่ามาตรฐานสากล และป้ายมืออาชีพ จะช่วยต่อยอดธุรกิจ เพิ่มยอดขายให้กับผู้ประกอบซึ่งจะทำให้เขามีโอกาสขยายธุรกิจด้วยการขอสินเชื่อเพื่อมืออาชีพ กับสถาบันการเงินที่เป็นพันธมิตรกับ สคช. ได้อีกด้วย ไม่เพียงเท่านั้นยังเป็นการกระตุ้นการใช้จ่าย สร้างเม็ดเงินให้หมุนเวียนภายในประเทศเกิดขึ้นด้วย โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ผ่านการประเมินจะมีชื่อไปอยู่ในแอปพลิเคชัน “ปักหมุดมืออาชีพ” ที่นักท่องเที่ยว ผู้บริโภค กระทั่งผู้ประกอบการ ที่อยากได้ อยากบริโภคอาหารรสเด็ด สะอาด ปลอดภัย ได้มาตรฐานจากตลาดประมงท่าเรือพลี และตลาดโต้รุ่งเมืองชลบุรี ก็สามารถค้นหาได้เลยทันทีทุกพื้นที่ที่มีอินเทอร์เน็ต ขณะที่ผู้ประกอบอาหารริมบาทวิถีซึ่งผ่านการประเมินฯ และได้รับป้ายมืออาชีพไปก่อนหน้านี้ยอมรับว่า ป้ายมืออาชีพช่วยเรียกความสนใจจากผู้บริโภคให้เลือกซื้อ เลือกใช้บริการมากขึ้น ทำให้พวกเขาขายของได้อย่างมั่นใจเพิ่มขึ้น เพราะเป็นเครื่องหมายที่แสดงให้เห็นถึงมาตรฐานของร้านค้าได้ ที่สำคัญนำป้ายไปใช้เพื่อการโปรโมตร้านผ่านทางช่องทางออนไลน์เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าในช่วงวิกฤตโควิด-19 ได้อีกด้วย #มืออาชีพ #สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ #ตลาดประมงท่าเรือพลี #ตลาดโต้รุ่งชลบุรี